นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา เผยผลสรุปการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย และศึกษาผลกระทบทางสังคมเกี่ยวกับการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก (N3) ผ่านการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น และการสำรวจด้วยแบบสอบถามทางออนไลน์ ทางไปรษณีย์ และการสัมภาษณ์ต่อหน้า
โดยพบว่า ผู้มีส่วนได้เสียส่วนใหญ่ เห็นด้วยกับการออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้ง 2 รูปแบบ เนื่องจากเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา และแก้ปัญหาการซื้อหวยนอกระบบได้ และทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการนำเงินนอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบ เพื่อให้รัฐนำเงินรายได้ส่วนหนึ่งกลับคืนไปแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมในมิติต่างๆ ในการพัฒนาสังคม ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ รวมถึงการนำรายได้ดังกล่าวไปแก้ไขปัญหาการพนันในสังคมไทย เพราะรายได้จากการขายสลากส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย
ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเห็นว่า การกำหนดราคาสลากฯ 6 หลัก ควรอยู่ที่ 80 บาท และจำหน่ายทั้งแบบใบ และแบบดิจิทัล เนื่องการจำหน่ายผ่านระบบดิจิทัลเพียงอย่างเดียว อาจส่งผลกระทบกับผู้ขายเป็นวงกว้าง ขณะที่สลากฯ แบบใบยังตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ หรือคนชนบทที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี
ส่วนเหตุผลที่ประชาชนสนับสนุนการออกสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก เพราะมองว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อที่สามารถกำหนดหมายเลขที่ตนเองต้องการได้ และสามารถลุ้นรับรางวัลทั้ง 4 รางวัลในรายการเดียว พร้อมเห็นด้วยกับการจัดสรรและจ่ายเงินรางวัลแบบผันแปร และการสมทบเงินรางวัล รวมทั้งการกำหนดราคา 50 ต่อรายการ ทั้งนี้ส่วนใหญ่เห็นควรให้จำหน่ายผ่านตัวแทน
"การรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ ก็มีผู้ที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งคนกลุ่มนี้ยังมีความกังวลเรื่องของการมอมเมาประชาชน การเข้าไม่ถึงเทคโนโลยีดิจิทัลของกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ ตลอดจนไม่มั่นใจต่อผลกระทบในการจำหน่ายสลากใบของกลุ่มผู้ขายสลาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ เนื่องจากอาจทำให้ลูกค้ามาซื้อสลากใบน้อยลง เพราะส่วนใหญ่หันไปซื้อสลากดิจิทัลมากขึ้น ขณะที่ผู้ค้าที่เป็นผู้ด้อยโอกาสและคนพิการ ยังมีข้อจำกัดเรื่องการใช้เทคโนโลยี อีกทั้งไม่เชื่อว่าสลากแบบดิจิทัลจะสามารถแก้ปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาได้ และไม่เชื่อว่าการออกสลากฯ ตัวเลข 3 หลัก จะเป็นวิธีการที่ทำให้ความต้องการในการซื้อหวยใต้ดินหรือการพนันนอกระบบลดลง แต่ในทางตรงกันข้ามกลับจะทำให้เด็กและเยาวชนทั่วไปเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่ ซึ่งจะทำให้คนเสพติดการเสี่ยงโชคมากขึ้น" นายชาญกฤช กล่าว
สำหรับข้อกังวลดังกล่าว ก็มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการในการลดผลกระทบจากการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล คือ การออกมาตรการจำกัดการเล่นเกมส์ หรือการซื้อสลากด้วยตนเองของผู้ซื้อ โดยให้สำนักงานสลากฯ ออกแอปพลิเคชั่น หรือระบบเฉพาะที่กำหนดให้ผู้ซื้อยอมรับเงื่อนไขวงเงินในการซื้อผ่านแอปฯ ด้วยการจำกัดวงเงินการเสี่ยงโชคหรือการซื้อสลากฯ ของผู้ซื้อแต่ละราย โดยให้ประชาชนเติมเงินหรือโอนเงินเข้าไปในระบบแอปฯ เท่าที่วงเงินของบัญชีผู้ซื้อนั้นๆ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการควบคุมและป้องกันการซื้อสลากฯ ของเด็กและเยาวชน โดยกำหนดให้มีระบบลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน ซึ่งเชื่อมโยงกับบัญชีธนาคารอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในกรณีของสลากฯ แบบใบ การออกแบบระบบติดตามการซื้อขายของผู้ค้าสลากให้มีการแจ้งอายุ หรือยืนยันตัวตนผู้ซื้อว่ามีอายุไม่ต่ำกว่ากฎหมายกำหนด ก็อาจเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการควบคุมและป้องกันการเข้าถึงสลากฯ ของเด็กและเยาวชนได้ ตลอดจนให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจาการซื้อขายสลากฯ เช่น การโจรกรรมข้อมูล การปลอมแปลงข้อมูลการซื้อขาย
ทั้งนี้ ผลสรุปที่ได้จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ทางสำนักงานสลากฯ จะรวบรวมความคิดเห็น รวมทั้งผลการศึกษาผลกระทบทางสังคมในทุกมิติ ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเสนอต่อคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณานำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป