นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประเทศไทย ประสบความสำเร็จในการจัดประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 7 (The 7th APEC Food Security Ministerial Meeting) โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ครั้งที่ 7 (The 7th APEC Food Security Ministerial Meeting) เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2565 ณ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เน้นย้ำการให้ความสำคัญต่อสถานการณ์โลก ด้านความมั่นคงด้านอาหารในปัจจุบัน และแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงทางอาหารในฐานะครัวไทยสู่ครัวโลก ให้แก่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
นายอนุชา กล่าวว่า ประเทศไทย และสมาชิกเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ ได้ร่วมกันรับรองปฏิญญาความมั่นคงอาหารเอเปค ซึ่งเป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นทางการเมือง ในการส่งเสริมความมั่นคงอาหารในภูมิภาค ซึ่งร่างปฏิญญาฯ ได้ผลักดันนโยบายสำคัญ 4 ด้าน ประกอบด้วย
1) ด้านความปลอดภัยอาหาร โดยเน้นการผลิตที่มีคุณภาพ ความปลอดภัย และสุขอนามัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล
2) ด้านการค้าระหว่างประเทศ ส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้าสินค้าเกษตร สนับสนุนระบบการค้าแบบพหุภาคี
3) ด้านการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นการผลิตที่ยั่งยืน และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า4) ด้านการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต สร้างมูลค่าเพิ่ม และเชื่อมโยงตลาด
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้ผลักดันการดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการภายใต้แผนงานความมั่นคงอาหารเอเปค ผ่านการขับเคลื่อนนโยบาย 3S ทั้งเรื่อง Safety, Security และ Sustainability ส่งเสริมความปลอดภัยอาหารให้ได้มาตรฐานสากล ถูกหลักโภชนาการ ตลอดจนส่งเสริมเทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมที่เชื่อมโยงการพัฒนาฐานข้อมูลด้วยระบบ Big Data และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงเศรษฐกิจดิจิทัลที่ขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วย BCG Model
"รัฐบาลตระหนักถึงสถานการณ์ และปัญหาด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลถึงวิกฤตการณ์อาหารโลก จึงมุ่งผลักดันการผลิตอาหารที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพ และมาตรฐานระดับสากล พร้อมส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตร และสินค้าประเภทอาหาร ตลอดจนยืนยันสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารแก่เขตเศรษฐกิจเอเปค และโลก ตามนโยบายครัวไทยสู่ครัวโลก" นายอนุชา กล่าว