น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทบทวนมติ ครม.เดิมเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 37 ที่กำหนดให้โรงงานแปรรูปไม้ (โรงเลื่อย) เพื่อผลิตไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับ รับแปรรูปเฉพาะไม้ที่ปลูกขึ้น 13 ชนิด ซึ่งเป็นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ คือ ยูคาลิปตัส สะเดาเทียม สนทะเล สนประดิพัทธ์ กระถินณรงค์ กระถินเทพา กระถินยักษ์ มะพร้าว มะขาม มะไฟบ้าน มะปรางบ้าน จามจุรี และไม้ตาล
โดยมติ ครม.ในครั้งนี้ เห็นชอบให้เพิ่มไม้ผลทุกชนิด เป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานแปรรูปไม้ได้ ซึ่งไม้ผลเหล่านี้ต้องปลูกในที่ดินที่มีเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน หนังสือรับรอง การทำประโยชน์ แบบแจ้ง การครอบครองที่ดิน เป็นต้น
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เงื่อนไขในการอนุญาตและมาตรการตรวจสอบควบคุม ต้องเป็นไปตามที่คณะกรรมการพิจารณาอนุญาตตั้งโรงงานแปรรูปไม้กำหนด
น.ส.รัชดา กล่าวว่า ความจำเป็นที่เพิ่มไม้ผลเป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานแปรรูปไม้ในครั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรไทยทำสวนผลไม้เพิ่มมากขึ้น โดยในแต่ละปีจะต้องมีการตัดแต่งกิ่งหรือตัดต้นไม้ที่มีอายุมากเป็นประจำ ซึ่งต้นไม้และเศษไม้เหล่านี้ สามารถนำมาผลิตเป็นไม้แปรรูปหรือชิ้นไม้สับได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากขายไม้อีกด้วย