![ตร.ไซเบอร์ ทลายเครือข่ายคดีหลอกลงทุนคริปโทฯ P Miner ยึดรถหรู-แบรนด์เนมเพียบ](/img/files/20220906/iqb9d0c2b2f0d5b01133c97aa503068a66-0.jpg)
พล.ต.ท. กรชัย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT เข้าทลายเครือข่ายหลอกลงทุน P Miner โดยตรวจค้นบ้านพักในจังหวัดเชียงใหม่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโทเคอร์เรนซี่ กรุ๊ป พร้อมยึดทรัพย์สินทั้งรถยนต์หรูหลาย เบนท์ลี่ย์ เบนเทย์ก้า, ลัมบอร์กีนี ฮูราคาน, เฟอร์รารี่ สไปเดอร์, ปอร์เช่ 718 บ็อกสเตอร์, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์โฟร์ และรถจักรยานยนต์ ฮาร์ลีย์ เดวิดสัน รวมถึง นาฬิกาหรู กระเป๋ารองเท้าแบรนด์เนม พร้อมด้วยอุปกรณ์คอมพิวเตอร์กว่า 120 เครื่อง ซึ่งใช้เป็นเครื่องขุดเหรียญดิจิทัล
![ตร.ไซเบอร์ ทลายเครือข่ายคดีหลอกลงทุนคริปโทฯ P Miner ยึดรถหรู-แบรนด์เนมเพียบ](/img/files/20220906/iqb9d0c2b2f0d5b01133c97aa503068a66-1.jpg)
คดีนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ที่ถูกชักชวนให้สมัครเป็นสมาชิก และร่วมลงทุนจุดเหรียญและเทรดเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี เครือข่าย หลอกลงทุน P Miner ตามโครงการต่างๆ มากกว่า 30 โครงการ โดยมีการอ้างว่า ผู้ที่ลงทุนเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท จะได้รับการคืนทุน 5 ครั้ง ทุกวันที่ 6 ของเดือนโดยแบ่งเป็นงวดๆ ละ 8,000 บาท 13,000 บาท 16,000 บาท 20,000 บาท และ 24,000 บาท ตามลำดับ รวมเป็นเงิน 80,000 บาท บางโครงการอ้างว่าได้กำไรมากถึง 82% ต่อเดือน หรือได้กำไร 1,000% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายจะพึงจ่ายได้
![ตร.ไซเบอร์ ทลายเครือข่ายคดีหลอกลงทุนคริปโทฯ P Miner ยึดรถหรู-แบรนด์เนมเพียบ](/img/files/20220906/iqb9d0c2b2f0d5b01133c97aa503068a66.jpg)
จากนั้นเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้วก็จะได้รับหนังสือ สัญญาการลงทุนซึ่งในสัญญาจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนไม่ว่าจะเป็น ชื่อโครงการที่ลงทุน จำนวนเงินที่ลงทุน ระยะเวลาที่ลงทุน จำนวนครั้งและจำนวนผลตอบแทนที่จะได้รับเงินกลับมา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่ามีการลงทุนจริง โดยในช่วงแรกของการเริ่มลงทุน ผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนกลับมาบางส่วนจริง
ต่อมาเมื่อเดือน ส.ค.65 ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนแต่อย่างใด ผู้ต้องหาอ้างเหตุขัดข้องต่างๆ และไม่สามารถติดต่อได้ในเวลาต่อมา ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย ปัจจุบันมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.com แล้วกว่า 341 ราย ความเสียหายรวมกว่า 439 ล้านบาท ทั้งนี้ยังมีผู้เสียหายบางส่วนเข้าแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) อีกส่วนหนึ่งด้วย (ประมาณ 500 ราย)
ในขณะนี้ ผู้ต้องหาและพวก ยังอยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับของศาลอาญาในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน รวมทั้งจ้อหาร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จตามพรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1)