นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนัก และตกสะสมในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจากประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งเตือนว่า สาเหตุจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย จึงส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของประเทศ เกิดปริมาณฝนตกสะสมจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดอุทกภัย และพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อน้ำป่าไหลหลาก
ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการและมอบหมายให้ทุกหน่วยงาน พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงและช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็วและทันที ตามขอบข่ายภารกิจทั้งที่ประสบเหตุผลผลิตพืช ปศุสัตว์ และประมง รวมทั้งการเยียวยาและฟื้นฟู ไม่ว่าจะเป็นกรมชลประทาน ในการระดมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อช่วยเร่งระบายมวลน้ำออกจากพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร และการบูรณาการร่วมจากทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ จัดจุดกระจายการช่วยเหลือแก่เกษตรกรและประชาชน การสนับสนุนปัจจัยการผลิต และพันธุ์สัตว์เพื่อฟื้นฟู
ขณะเดียวกัน กรมปศุสัตว์ และกรมประมง ได้ติดตามประเมินสถานการณ์ด้านปศุสัตว์และประมง การอพยพสัตว์ในพื้นที่เสี่ยง ขณะที่กรมส่งเสริมการเกษตร กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร เฝ้าระวังพื้นที่ผลผลิตสินค้าเกษตรที่สำคัญ ตลอดจนการสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ มีการซ่อมแซมโครงสร้างด้านชลประทาน รวมถึงแหล่งกักเก็บน้ำ การบำบัดน้ำเสียในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เกษตร การปรับปรุงบำรุงดิน อันเป็นความร่วมมือกันของกรมชลประทาน สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาที่ดิน และหน่วยงานต่างๆ ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
"กระทรวงเกษตรฯ โดยทุกหน่วยงาน เรามีความพร้อมตลอดเวลา ในการเข้าช่วยเหลือเกษตรกร และประชาชน มีการจัดชุดปฏิบัติการ ติดตามสถานการณ์ เร่งสำรวจความเสียหายและพื้นฟูเยียวยา ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องประชาชน และเกษตรกรในทุกพื้นที่ และเราพร้อมที่จะบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการเข้าช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติให้เร็วที่สุด" รมว.เกษตรฯ กล่าว
ด้าน นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ โดยศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร ทั้งในส่วนกลางและระดับจังหวัด ได้เตรียมการประสานกับทุกหน่วยงานในการช่วยเหลือบรรเทาความเสียหาย พร้อมได้กำหนดหลักเกณฑ์การช่วยเกษตรกรโดยยึดตาม "หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือ ด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564"
ทั้งนี้ เป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น จะดำเนินการช่วยเหลือแก่เกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติที่ขึ้นทะเบียน และปรับปรุงทะเบียนกับหน่วยงานที่กำกับดูแลแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรฯ
รมว.เกษตรฯ ได้สั่งการ กำชับ และมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ในการเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือ และกำลังคน เพื่อช่วยเหลือและจัดทีมเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อฟื้นฟูเยียวยาเกษตรกรและพื้นที่ทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขอให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยร่วมเฝ้าระวัง ติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการ เพื่อพร้อมรับมือสถานการณ์อย่างใกล้ชิด