นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ (TEAMG) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านระบบน้ำ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ให้ติดตามเส้นทางของพายุโดยเฉพาะในวันที่ 21 และ 22 ก.ย.นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากจีนเปลี่ยนแปลง (การวิเคราะห์ 19 ก.ย. 65 เปลี่ยนไป จึงต้องติดตามให้ใกล้ชิดอย่างต่อเนื่อง)
ทั้งนี้ พบว่าทางเดินของพายุจะเป็นทางใดทางหนึ่งใน 2 เส้นทางนี้คือ
(1) พายุอาจจะเปลี่ยนทิศ เคลื่อนที่ไปทางตะวันตกเฉียงขึ้นเหนือ โดยจะไปเข้าไต้หวัน ทำให้ฝนตกหนักมากประมาณวันที่ 25 ก.ย.และขึ้นฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมากที่เซี้ยเหมิน และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณวันที่ 26 ก.ย.นี้
(2) หากเคลื่อนที่ทางทิศตะวันตกเช่นเดิม ก็อาจจะมาถึงไทย อาจจะเข้ามาที่ ภาคอีสานตอนบน และภาคเหนือ จะได้น้ำเข้าเก็บในอ่างเก็บน้ำมากขึ้น
นายชวลิต ระบุว่า จากแบบจำลองภูมิอากาศของ Windy เดิม มีโอกาสสูงที่จะมีพายุเข้ามาถึงประเทศไทยในช่วงประมาณ 27-28 ก.ย. 65 ต้องติดตามให้ใกล้ชิดต่อไป โดยที่ 21 ก.ย. 65 มีแนวโน้มที่จะมีการก่อตัวของพายุในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โดยจะเคลื่อนที่มาทางทิศตะวันตก
จากนั้น 24-25 ก.ย. 65 อาจจะเคลื่อนที่ผ่านชายทะเล ตอนเหนือสุดของฟิลิปปินส์ หากผ่านมาได้ก็จะเคลื่อนที่มาทางทิศตะวันตกอย่างต่อเนื่อง และ6-27 ก.ย. 65 จะทำให้ฝนตกหนักมาก บนเกาะไหหลำ
หากเป็นในแนวนี้ ก็จะมีโอกาสสูงมากที่จะเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 27 ก.ย. อาจจะทำให้ฝนตกหนักในภาพอีสานตอนบน และ 28 ก.ย.อาจจะทำให้ฝนตกหนักในภาคเหนือ ซึ่งจะมีผลดี คือ ทำให้มีน้ำไหลเข้าเก็บกักในอ่างเก็บน้ำได้มาก โดยต้องระมัดระวังน้ำล้นอ่างแม่งัดเชียงใหม่ กิ่วคอหมาลำปาง แควน้อยบำรุงแดนพิษณุโลก เป็นต้นและ ต้องเตรียมรับมือกับการเกิดน้ำป่าไหลหลาก หรือ ดินโคลนถล่มในพื้นที่เชิงเขา และน้ำท่วม ในพื้นที่ลุ่มต่ำ และในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำไหล และ อาจจะมีน้ำล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่สองตลิ่งลำน้ำต่างๆ ได้