กรมชลประทาน โดยศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ระบุว่า ในช่วงวันที่ 19 - 20 ก.ย. 65 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง และช่วงวันที่ 21 - 25 ก.ย. 65 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
กรมชลประทาน ได้นำข้อมูลการคาดการณ์สภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา มาวางแผนบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อรองรับปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่ การเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ ประจำจุดพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง ให้สามารถพร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมไปถึงตรวจสอบความพร้อมของอาคารชลประทานและพนังกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หมั่นกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับทราบอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้ (20 ก.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สถานี C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,037 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 3.18 เมตร แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ก่อนปริมาณน้ำนี้จะไหลไปรวมกับน้ำที่มาจากเม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขา ไหลลงสู่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ที่ปัจจุบันได้มีการควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตราประมาณ 1,989 ลบ.ม./วินาที ส่วนพื้นที่ตอนล่างที่สถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,537.00 ลบ.ม./วินาที
ขณะที่ กรุงเทพมหานคร (กทม.) เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วง 22 - 26 ก.ย.นี้ เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น รวมทั้งมีการระบายน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นกว่าปกติ โดยระดับน้ำจะมีความสูงประมาณ 1.70 - 2.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง