น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเพื่อการอุปโภคบริโภค และโครงการจัดหาเครื่องสูบน้ำแบบชนิดเคลื่อนที่เร็วของกรมชลประทาน ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอเพื่อดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และเพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงการเกิดอุทกภัยและภัยแล้ง
สำหรับโครงการดังกล่าว มุ่งแก้ไขปัญหาภัยแล้งและลดผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง ประกอบด้วย
1. โครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเพื่อการอุปโภคบริโภค ด้วยระบบ Water Treatment System เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นการสร้างระบบผลิตน้ำประปาที่สามารถบำบัดค่าความเป็นกรด-ด่าง ความขุ่นและสีที่ปรากฏของน้ำ ตลอดจนสารในน้ำให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน เพื่อผลิตน้ำประปาสำหรับการอุปโภคบริโภคของประชาชน โดยกำหนดให้ดำเนินการในบริเวณที่มีความพร้อมในการดำเนินการใน 6 อำเภอของ จ.สุพรรณบุรี ได้แก่ อ.สามชุก อ.บางปลาม้า อ.สองพี่น้อง อ.หนองหญ้าไซ อ.เดิมบางนางบวช และ อ.ศรีประจันต์
2. โครงการจัดหาเครื่องสูบน้ำแบบชนิดเคลื่อนที่เร็ว ขับด้วยระบบ ไฮดรอลิค ขนาดท่อส่งไม่น้อยกว่า 42 นิ้ว จำนวน 30 เครื่อง โดยกรมชลประทานจะบริหารจัดการให้มีการหมุนเวียนไปในพื้นที่ที่มีความจำเป็นต่อไป
"รัฐบาลมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะจัดการปัญหาภัยแล้งและป้องกันอุทกภัยให้กับเกษตรกรและพี่น้องประชาชน น้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคเป็นปัจจัยสำคัญทั้งการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพ ส่วนความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมนั้นเป็นเรื่องที่สามารถป้องกันได้โดยต้องบริหารจัดการน้ำให้ทันต่อสถานการณ์" น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า ทั้ง 2 โครงการนี้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ คาดว่า จะมีครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ ประมาณ 6,364 ครัวเรือน รวมถึงสามารถสนับสนุนการป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอุทกภัย ภัยแล้ง หรือภัยอื่นๆ อันเกิดจากน้ำได้ทันต่อสถานการณ์ ด้วยงบประมาณ 796.95 ล้านบาท จากงบกลางของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565