พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงงานด้านความมั่นคง การดูการชุมนุม หลังจากยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ว่า เมื่อยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ก็ใช้ พ.ร.บ.ชุมชนมสาธารณะ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย
ผบ.ตร. กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย ตามหน้าที่ ที่กฎหมายมีอยู่ ผู้ชุมนุมสามารถเรียกร้องได้ตามสิทธิ แต่อยากให้ผู้ชุมนุมเข้าใจกฎหมายและหน้าที่ ที่ผ่านมาพูดคุยกับแกนนำมาโดยตลอด เพื่อทำความเข้าใจกันให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราต่างทำหน้าที่ ผู้ชุมนุมที่เห็นต่าง ก็ทำหน้าที่ของท่าน ขอให้เข้าใจตำรวจด้วย หากตำรวจไม่ทำตามกฎหมายก็มีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เราบังคับใช้กฎหมาย ไม่อยากให้เกิดการปะทะกัน
"เราไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม เน้นการรักษาสถานที่สำคัญ ดูแลความปลอดภัย เราเน้นใช้ในการปกป้องรักษาสถานที่สำคัญ ถ้าไม่บุกมาเราไม่ใช้อยู่แล้ว อยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่เคยมีความคิดที่จะใช้อุปกรณ์พิเศษเลย ผมมองในฐานะตำรวจของทุกท่านด้วยความเข้าใจเห็นใจ พวกท่านมาด้วยความเห็นอิสระของท่านได้" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว
ต่อข้อซักถามว่าหากผู้ชุมนุมลงถนน จะใช้รถฉีดน้ำ หรือจีโน่ หรือไม่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นนั้น เราเน้นการรักษาสถานที่สำคัญเป็นหลัก การปฏิบัติการต่างๆ เราทำตามกฎหมาย การจัดกำลังไปดูแลการชุมนุม เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยก็เป็นการจัดกองกำลังตามปกติ ประเมินสภาพตามความเป็นจริง โดยประเมินจากการข่าว ซึ่งตนเชื่อว่าในช่วงนี้ผู้ชุมนุมก็มีการชุมนุมในกรอบกฎหมายอย่างดี ตำรวจแบ่งปฏิบัติเป็นสองส่วนส่วนหนึ่งดูแลสถานที่ชุมนุม ส่วนหนึ่งไปดูแลสถานที่สำคัญต่างๆซึ่งเรามีประสบการณ์จากช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา
เมื่อถามถึงการประเมินสถานการณ์ชุมนุมที่อาจจะมีขึ้นมากหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนายกฯ 8 ปี และมีเยาวชนเข้าร่วมมากขึ้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า เราประเมินแบบวันต่อวัน ตำรวจเป็นผู้ดูแลการชุมนุมซึ่งก็จะต้องมีการชี้แจงข้อกฎหมายต่างๆให้แกนนำผู้ชุมนุมได้รับทราบ อยากให้อย่ามองเราเป็นฝ่ายตรงข้ามเพราะว่าตำรวจไม่ว่าทุกรัฐบาลไหนก็จะต้องทำหน้าที่ของเรา ส่วนใหญ่คนไม่เข้าใจก็จะมาลงที่ตำรวจโดนผลักไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อยากบอกว่าตำรวจเป็นกลาง