น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา รวมระยะเวลาให้บริการประชาชน 477 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม หน่วยงานงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนจิตอาสาทุกๆ คน ที่ได้ร่วมกันปฏิบัติงานให้บริการกระจายวัคซีนให้ประชาชน 3.3 ล้านคน รวมวัคซีนกว่า 6.5 ล้านโดส
"นายกฯ แสดงความชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกหน่วยงาน ที่ได้เข้ามาร่วมกันปฏิบัติงานที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ในภาวะที่ประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤตโรคระบาด ทุกคนร่วมกันแก้ไขปัญหา อุปสรรค ลดข้อจำกัดต่างๆ จนสามารถเป็นหน่วยที่กระจายวัคซีนให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นศูนย์วัคซีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแ ละเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ประชาชนได้รับวัคซีนครอบคลุม เกิดภูมิต้านทานอย่างทั่วถึง สามารถผ่านพ้นวิกฤต ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิต ธุรกิจกลับมาประกอบการได้เข้าใกล้ภาวะปกติ" น.ส.ไตรศุลี กล่าว
พร้อมระบุว่า แต่วันที่ 1 ต.ค. 65 ที่รัฐบาลได้ประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง และมาตรการทางสังคมต่างๆ มีความผ่อนคลายมาขึ้น แต่ยังคงแนะนำประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่แออัด ใช้แอลกอฮอล์ล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดโอกาสการรับเชื้อโรค ซึ่งด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่อนคลายมากขึ้นนี้รัฐบาลยังคงรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน โดยเฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยรับวัคซีนนั้นขอให้เข้ารับวัคซีนโดยด่วน ขณะผู้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ก็ขอให้เข้ารับเข็มกระตุ้น เพื่อลดอาการป่วยหนักและเสียชีวิต
สำหรับจุดบริการวัคซีนนั้น ประชาชนสามารถติดต่อรับวัคซีนในสถานบริการใกล้บ้าน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนไปยังโรงพยาบาล สถานพยาบาลเครือข่ายทุกจังหวัด โดยประชาชนเข้ารับวัคซีนได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
พร้อมกันนี้ สถาบันโรคผิวหนังยังได้เปิดให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับบุคคลอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทั้งรูปแบบจองคิวฉีดล่วงหน้าได้ที่ https://covid19.iod.go.th/vaccine และลงทะเบียน ณ จุดฉีด (Walk in) ณ ห้องประชุมชั้น 20 สถาบันโรคผิวหนัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยให้บริการในวันเสาร์ ที่ 1, 8, 29 ต.ค. 65 เวลา 9.00-15.00 น. (ยกเว้นวันเสาร์ที่ 15 และ 22 ต.ค. งดบริการ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว)