นายธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันต์ชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ว่า สถานการณ์ฝนตกน้ำท่วมที่เกิดขึ้นบริเวณกรุงเทพและปริมณฑลวานนี้ ไม่ได้เกิดจากพายุโนรู แต่เกิดจากร่องมรสุม ประกอบกับมีมวลอากาศเย็นจากมหาสมุทรแปซิฟิกเข้ามาตั้งแต่วันก่อน เสริมทำให้ร่องมรสุมมีกำลังแรงขึ้น โดยเมื่อคืนนี้กลุ่มฝนเคลื่อนจากตะวันออกไปตะวันตกเป็นระลอกๆ ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวจะยังคงอยู่ และในค่ำของวันนี้ก็จะมีกลุ่มฝนมาเป็นระลอกเช่นกัน
"พักนี้ลักษณะนี้ยังอยู่ จะบอกว่าไม่หนักไม่ได้ ต้องมีหนักเกิดขึ้นบ้าง แต่เมื่อคืนหนักมาก แต่ละแห่งมีปริมาณน้ำเกิน 100 มิลลิเมตร ในช่วง 24 ชั่วโมง" นายธนะสิทธิ์ กล่าว
นายธนะสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ภายในช่วง 2-3 วันนี้ เชื่อว่ามวลอากาศเย็นจากแปซิฟิกยังอยู่ แต่จะค่อยๆ อ่อนลง รอจนประมาณวันที่ 9 ต.ค. จะมีมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนลงมา ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตอนบนแห้งขึ้น แต่ระยะแรกที่มวลอากาศเย็นมาจะมาพร้อมฝนฟ้าคะนอง ซึ่งไทยจะเจอฝนตกหนักอีกครั้งช่วงวันที่ 8-10 ต.ค.
ทั้งนี้ ช่วงประมาณวันที่ 9 ต.ค. บริเวณที่จะมีฝนตกหนัก คือ ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้วย เนื่องจากร่องมรสุมอยู่ในแนวภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก
"กรุงเทพมีโอกาสเจอสถานการณ์แบบเมื่อวานนี้อีก เพราะอากาศแปรปรวน ช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว จะเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้เสมอ" นายธนะสิทธิ์ กล่าว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมหนักที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจากอิทธิพลของร่องมรสุมเดิม และก่อนหน้านี้หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนจากพายุโนรู เคลื่อนไปแถวๆ ด้านตะวันตกของภาคเหนือ หรือจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ทำให้เกิดฝนตกบริเวณภาคเหนือมากขึ้น พอฝนตกติดต่อกัน 2-3 วัน ปริมาณน้ำที่อยู่บนเขาก็มากจนทะลักลงมาเป็นน้ำป่าไหลหลาก