พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะเดินทางถึงท่าอากาศยานขอนแก่น จากนั้นได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จากนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า การระบายน้ำในพื้นที่และการพร่องน้ำต่างๆ จะต้องบูรณาการไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ซึ่งภาพรวมในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางพื้นที่น้ำมาก บางพื้นที่น้ำน้อย ดังนั้นจะต้องมาพิจารณาหาแนวทาง เพื่อให้ได้ประโยชน์ร่วมกันในเรื่องของการกักเก็บน้ำ
ทั้งนี้ หากยังมีฝนตกในปริมาณมากกว่าที่จะระบายน้ำได้ทัน ก็ยังจะมีปัญหาอยู่เช่นนี้ และไม่ใช่การแก้ตัว แต่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งจะต้องหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด หากอะไรที่สามารถป้องกันได้ก็ให้ดำเนินการไป เช่น การปกป้องโรงพยาบาล พื้นที่เศรษฐกิจ แต่หากเรื่องไหนทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการแก้ไข เพื่อให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรักษาพยาบาล อาหาร น้ำสะอาด และพื้นที่พักพิงสำหรับการแก้ปัญหาต้องสรุปและแบ่งเป็นกลุ่มในการเยียวยาให้ทั่วถึง เช่น กลุ่มเกษตรกร ภาคธุรกิจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในฐานะนายกฯ รัฐบาลได้สั่งการให้เตรียมการไว้นานแล้ว เพราะคาดการณ์อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น จึงขอให้ทุกหน่วยงาน ทุกคน ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการให้เร็วที่สุดในทุกพื้นที่ รวมถึงขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนเข้ามาช่วยในเรื่องของอาหาร อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยชาติ ช่วยประชาชน และนั่นคือสิ่งที่จะรวมพลังคนไทยทั้งหมด และจะสามารถแก้ได้ทุกปัญหา มากบ้างน้อยบ้าง เร็วบ้างช้าบ้าง นั่นคือประเทศไทย หากไม่ทำเช่นนี้ก็จะแก้ไขไม่ได้ ถือว่าไม่ใช่ผลงานของใครคนใดคนหนึ่ง
ทั้งนี้แนวทางการแก้ปัญหามีแผนงานโครงการของทุกจังหวัดอยู่แล้ว ซึ่งหลายโครงการมุ่งดำเนินการให้แล้วเสร็จในปี 65 และบางโครงการมุ่งให้สำเร็จในปี 66
จากนั้นนายกฯ เดินออกจากท่าอากาศยานขอนแก่น ด้วยรถยนต์ทรานฟอร์เมอร์ ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และตรวจระบบการทำงานของเครื่องสูบน้ำแรงดันสูง ณ บึงหนองโคตร หน้าวัดศรีสะอาดหนองโคตร