นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุ "โนรู" จนส่งผลให้เกิดอุทกภัยเป็นวงกว้าง ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรในหลายพื้นที่ จนทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ขาดแคลนอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง บางพื้นที่มีการอพยพสัตว์เลี้ยงไปบนพื้นที่สูงที่มีความปลอดภัย มีสัตว์เจ็บป่วยที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งในเบื้องต้น กรมปศุสัตว์ได้ระดมสรรพกำลังออกไปให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ทั้งด้านการอพยพสัตว์ เสบียงสัตว์ ตลอดจนการรักษาพยาบาลสัตว์ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและลดความเสียหายให้กับเกษตรกร
นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ได้มีการเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ที่ประสบภัยพิบัติ ในปี 2566 ได้แก่ ด้านการบริหาร โดยการจัดตั้ง "ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ (ศปภ.ปศ.)" ซึ่งมีอธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ส่วนด้านเสบียงสัตว์สำรอง เพื่อความมั่นคงด้านอาหารสัตว์ โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ 32 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 5,366 ตัน พร้อมทั้งจัดถุงยังชีพสำหรับสัตว์ จำนวน 3,000 ถุง สำรองยานพาหนะ 118 คัน จัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ 161 ทีม จุดอพยพสัตว์ 1,919 จุด และเวชภัณฑ์ดูแลสุขภาพสัตว์ประจำ 9 เขต
สำหรับสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้กรมปศุสัตว์ ได้ลงพื้นที่เร่งสำรวจจังหวัดที่ได้รับผลกระทบด้านปศุสัตว์ พบว่า มีจำนวน 10 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยดังกล่าว ซึ่งกรมฯ ได้ให้การช่วยเหลือเฉพาะหน้าไปแล้ว 7 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ ยโสธร นครราชสีมา สิงห์บุรี ร้อยเอ็ด สุรินทร์ และอุบลราชธานี และยังเหลืออีก 3 จังหวัดที่จะดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป ได้แก่ พิษณุโลก เชียงใหม่ และร้อยเอ็ด
ในส่วนของ 7 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จำนวน 17,632 ราย สัตว์เลี้ยงจำนวน 549,668 ตัว ได้แก่ โค 42,721 ตัว กระบือ 12,161 ตัว สุกร 7,038 ตัว แพะ/แกะ 1,467 ตัว และสัตว์ปีก 486,281 ตัว และแปลงหญ้าที่ได้รับความเสียหายอีกจำนวน 574 ไร่ ทั้งนี้ จากการสรุปผลการช่วยเหลือในวันที่ 30 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไปแล้ว 8,855 ราย และอพยพสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ เป็นจำนวน 15,695 ตัว แบ่งเป็น โค 11,088 ตัว กระบือ 2,974 ตัว สุกร 30 ตัว แพะ/แกะ 27 ตัว และสัตว์ปีก 1,576 ตัว
นอกจากนี้ กรมฯ ได้สนับสนุนเสบียงสัตว์ไปแล้ว 126,200 กิโลกรัม รักษาสัตว์ป่วยอีกจำนวน 23 ตัว และมอบถุงยังชีพสัตว์ให้แก่เกษตรกรอีกจำนวน 250 ถุง อย่างไรก็ดี หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายและกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว กรมฯ จะเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหาย เพื่อทราบถึงจำนวนสัตว์ตายหรือสูญหายของเกษตรกรแต่ละราย และดำเนินการชดเชยเยียวยาตามระเบียบของทางราชการอีกครั้งหนึ่ง