เกิดเหตุสารเคมีรั่วไหลจากโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดระยองเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เบื้องต้นมีคนงานได้รับสารพิษจำนวน 13 ราย มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุน นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลระยอง
ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้น แพทย์จะให้กลับบ้านได้เย็นนี้ ส่วนประชาชนที่อยู่โดยรอบยังไม่มีรายงานว่าได้รับผลกระทบ
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี รายงานในเบื้องต้นว่า สารเคมีที่รั่วไหลดังกล่าวเป็นสาร heavy naphtha UN no. 1255 ที่ค้างอยู่ในท่อ เกิดรั่วไหลขณะที่ผู้รับเหมากำลังปฏิบัติงาน
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สารเคมีดังกล่าวอยู่ในกลุ่ม hydrocarbon เมื่อเกิดเพลิงไหม้จะทำให้เกิดการระคายเคือง หรือก๊าซพิษทำปฏิกิริยากับน้ำแล้วอาจก่อให้เกิดความร้อนสูง ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นของไอควันในอากาศเมื่อหายใจเข้าไป หากกลืนกินหรือสัมผัสไอ ฝุ่นหรือสารที่ผิวหนังและตา อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเกิดแผลไหม้ที่ผิวหนังได้
ทั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ยังคงเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ศูนย์อนามัยที่ 6 ชลบุรี และศูนย์เชี่ยวชาญด้านพิษวิทยา โรงพยาบาลระยอง เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และลงพื้นที่เก็บตัวอย่างสารพิษในสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ และ อสม. ลงพื้นที่แนะนำประชาชนรอบ พื้นที่เกิดเหตุด้วย
ด้านบมจ. ไออาร์พีซี (IRPC) ชี้แจงเหตุกลิ่นไอระเหยของน้ำมันบริเวณเขตประกอบการอุตสาหกรรมไออาร์พีซี จังหวัดระยอง เนื่องมาจากการเตรียมระบบตามแผนการซ่อมบำรุงใหญ่ประจำปี 2565 ซึ่งไม่ใช่ก๊าซรั่วแต่อย่างใด โดยมีผู้รับเหมาบางรายมีอาการวิงเวียนศีรษะจึงได้ส่งตัวไปปฐมพยาบาลที่โรงพยาบาลระยอง และอาการปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามมาตรฐานความปลอดภัย และขอให้มั่นใจในมาตรการเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์ของบริษัทฯและขอยืนยันว่าสถานการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน