นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากอิทธิพลมาจากพายุอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่ง ทำให้เกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย ส่งผลให้ประชาชนและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตวน้ำได้รับความเดือดร้อน ผลผลิตสัตว์น้ำเกิดความเสียหาย
จากการสำรวจความเสียหายด้านการประมง (ข้อมูล ณ วันที่ 19 ต.ค. 65) พบมีพื้นที่เสียหาย 41 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี นครราชสีมา ชัยภูมิ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว กาญจนบุรี ราชบุรี ระยอง และตรัง
ขณะเดียวกัน พบเกษตรกรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 21,467 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหายรวมกว่า 26,956.71 ไร่ 204,518.25 ตารางเมตร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่น้อยกว่า 463,383,133 บาท ประมาณการวงเงินช่วยเหลือ 199,017,411.81 บาท
อย่างไรก็ดี กรมประมง จะเร่งดำเนินการสำรวจอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และจะดำเนินการให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของกระทรวงการคลังต่อไป โดยอัตราการให้ความช่วยเหลือ มีดังนี้
1. กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
2. ปลาหรือสัตว์น้ำอื่นนอกจากข้อ 1 ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าว หรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง) ไร่ละ 4,682 บาท ไม่กินรายละ 5 ไร่
3. สัตว์น้ำตามข้อ 1 และ 2 ที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงในลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร
ทั้งนี้ หากคิดคำนวณพื้นที่เลี้ยงแล้ว ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติรายใดจะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินต่ำกว่า 368 บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ 368 บาท และหลังจากนี้กรมประมงยังมีแนวทางในการจัดทำโครงการเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในลำดับต่อไป
นอกจากนี้ กรมประมงยังได้ออกประกาศ และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนโดยตรงไปยังผู้ประกอบการที่เพาะเลี้ยงจระเข้ในทุกจังหวัด ให้เพิ่มความระมัดระวังในการควบคุม ดูแลจระเข้ที่อยู่ในครอบครองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการหลุดลอดออกจากฟาร์ม และหากประชาชนพบเห็นจระเข้ในแหล่งน้ำสาธารณะหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ สามารถแจ้งสำนักงานประมงจังหวัดในพื้นที่ได้