นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มุ่งมั่นขับเคลื่อนรัฐบาลสู่ระบบดิจิทัล โดยให้ส่วนราชการเตรียมความพร้อมให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐในรูปแบบ e-Service โดยประชาชนสามารถยื่นคำขออนุญาตโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องจะปฏิเสธไม่รับการขออนุญาตไม่ได้
ทั้งนี้ พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2565 ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 13 ต.ค.65 และจะมีผลใช้บังคับทั้งฉบับในวันที่ 10 ม.ค.66 ช่วยให้การติดต่อหน่วยราชการทุกแห่งสามารถทำได้ด้วยออนไลน์ ไม่จำเป็นต้องไปทำธุรกรรมด้วยตนเอง ยกเว้นการให้บริการเพียง 5 ประเภทนี้ ได้แก่ จดทะเบียนสมรส หย่า แจ้งรับบุตรบุญธรรม การทำบัตรประชาชนและพาสปอร์ต เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพแก่การปฏิบัติราชการของภาครัฐ และยังรองรับสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน
โดยประชาชนจะได้รับความสะดวกในการติดต่อราชการ ในการยื่นขออนุญาต ขอรับสวัสดิการ สามารถยื่นเอกสารขอรับบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งหรือส่งใบอนุญาตให้ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ไม่ต้องไปรับด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังสามารถรับเงินจ่ายเงินออนไลน์ พร้อมได้ใบเสร็จ เมื่อประชาชนนำเอกสารตัวจริงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องทำสำเนาและรับรองเอง ประชาชนไม่ต้องเสียเงินในการถ่ายเอกสาร แสดงบัตรหรือใบอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เจ้าหน้าที่ดูแทนได้ โดยประชาชนยังสามารถตรวจใบอนุญาตทางออนไลน์ได้
"หน่วยงานรัฐทุกหน่วยต้องมีช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อีเมลกลางของหน่วยงาน เพื่อเป็นช่องทางให้บริการประชาชน ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์แก่การดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชน การทำธุรกรรมของภาคเอกชน ยังเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการยกระดับรูปแบบการบริหารงานและการบริการภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัลด้วย" นายอนุชา กล่าว