รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า การประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ที่สำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถท่าอากาศยานดอนเมือง, โครงการโรงไฟฟ้าพระนครใต้ (ส่วนเพิ่ม) สมุทรปราการ, โครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ และโครงการก่อสร้างทางเลี่ยงเมือง จ.อ่างทอง
พร้อมกันนี้ได้เห็นชอบแผนจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมปี 66-70, แผนปฎิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 ปี 66-70, แผนเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองปี 66, นโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก, แผนปฏิบัติการเพื่อจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระดับจังหวัดปี 67, โครงการพัฒนาศักยภาพสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด รวมทั้งการกำหนดอัตราค่าบริการกำจัดขยะมูลฝอยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 14 แห่งที่ได้รับการจัดสรรเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม
ที่ประชุมฯ ยังรับทราบรายงานภาพรวมสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อมปี 65 ดีขึ้น โดยมีพื้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรประมงเพิ่มขึ้น และการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สถานการณ์ที่ควรติดตามเฝ้าระวัง เช่น ปริมาณการนำเข้าปุ๋ยเคมีและวัตถุอันตรายทางการเกษตร ปริมาณขยะพลาสติก ของเสียอันตราย มูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้น และธรณีภัยพิบัติเพิ่มขึ้น และรับทราบผลการดำเนินงานบริหารจัดการเขตควบคุมมลพิษตามแผนการปฏิรูปประเทศ พบว่า เขตควบคุมมลพิษ 18 พื้นที่ ใน 13 จังหวัด ไม่มีพื้นที่ใดมีความพร้อมในการยกเลิกเขตควบคุมมลพิษในปี 65 โดยมีพื้นที่หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เป็นที่เดียวที่มีความพร้อมยกเลิกในระยะไม่เกิน 3 ปี ทั้งนี้ ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี และ จ.ระยอง ยังอยู่ในสถานะมีความพร้อมน้อย ปัญหาภาพรวมจากข้อจำกัดงบประมาณ รวมทั้งการกำกับดูแลไม่ทั่วถึงและเข้มงวดพอ