นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่เปิดทางให้ต่างชาติซื้อที่ดินในไทยได้เป็นกฎหมายขายชาติว่า กฏกระทรวงฉบับนี้ แตกต่างไปจากหลักเกณฑ์เดิมเพียงแค่ระยะเวลาที่ต้องดำรงการลงทุนจากเดิมไม่น้อยกว่า 5 ปี เป็นไม่น้อยกว่า 3 ปีเท่านั้น
โดยคนต่างชาติที่ได้รับสิทธิให้เข้ามาพำนักในประเทศมี 4 กลุ่ม หลักเกณฑ์ต่างๆ สามารถปรับแก้ไขได้ ดังนั้น จึงสามารถดำเนินการนำร่องไปก่อน ซึ่งประเทศอื่นก็ให้ซื้อและครอบครองที่ดินได้ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรป
"เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ และได้นำร่องเอาไว้ หากมีผู้สนใจและเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ก็เดินหน้าไปได้ แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องมาดูว่าเหตุผลคืออะไร จำเป็นต้องปรับปรุงหรือไม่ และถ้าหากไม่ดีก็สามารถที่จะยุติ หรือทำให้เข้มข้นขึ้นมาได้ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องไปถึงการออกเป็นพระราชบัญญัติ เป็นเรื่องของกฎเกณฑ์สามารถแก้ไขได้ตลอดเวลา" นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
พร้อมระบุว่า ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ไม่น่าจะถูกมองว่าเป็นการขายชาติ เพราะถ้าขายชาติก็มีตั้งแต่ปี 2545 แล้ว ตั้งแต่การออกพระราชบัญญัติฉบับนี้ และเมื่อปี 2545 ก็มีการประกาศออกกฎเกณฑ์ ซึ่งค่อนข้างจะเปิดกว้างมากกว่านี้ จะเป็นใครก็ได้ หรือเป็นต่างด้าวประเภทไหนก็ได้และมีระยะเวลาเพียงแค่สั้นๆ และมีการลงทุนกว้างๆ
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นนำหลักเกณฑ์มาประกบคู่กับบุคลากรที่มีคุณภาพที่เราสนใจและอยากมาพำนักอยู่ในประเทศไทย และสามารถครอบครองที่ดินได้ ถือเป็นแรงดึงดูดประการหนึ่ง ซึ่งประเทศอื่นเขาก็ทำกัน และหลักเกณ์ของเรามีความเข้มงวดกว่าประเทศอื่นๆ ด้วยซ้ำไป"นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว