พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยว่า วันนี้ได้ประชุมเตรียมการสำหรับการเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ครั้งที่ 29 และการประชุมระหว่างคณะมนตรีคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงกับกลุ่มหุ้นส่วนการพัฒนา ครั้งที่ 27 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ณ ประเทศเวียดนาม
ที่ประชุมได้พิจารณากรอบการหารือสำหรับการประชุมดังกล่าว ได้แก่ 1) ร่างปฏิญญาสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 4 และกำหนดการประชุมสุดยอดผู้นำลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ครั้งที่ 4 ในเดือน เม.ย.66 และ 2) การอนุมัติแผนการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ประจำปี พ.ศ.2566-2567 โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบกรอบการหารือดังกล่าว เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เร่งดำเนินการตามมติที่ประชุม และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนข้อคิดเห็นเพื่อให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ที่ประชุมยังได้รับทราบสถานการณ์และความก้าวหน้าของงานสำคัญต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง โดยเฉพาะเรื่องความคืบหน้าของโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม สปป.ลาว ซึ่งที่ผ่านมา ประเทศไทยได้เน้นย้ำประเด็นข้อกังวลต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องเขตแดนและการกัดเซาะในลำน้ำ และได้ยืนยันให้มีการศึกษาข้อมูลผลกระทบข้ามพรมแดนให้ชัดเจน โดยขณะนี้สำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRCS) รายงานว่าอยู่ในระหว่างศึกษาข้อมูลผลกระทบข้ามพรมแดนเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย.นี้
โดยในที่ประชุมได้กำชับให้มีการเสนอความเห็นในโอกาสการประชุมต่างๆ เพื่อปกป้องและรักษาผลประโยชน์และความเป็นเอกภาพของประเทศไทย พร้อมกำชับให้ สทนช.ดำเนินการตามมติที่ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ โดยรักษาความร่วมมือกับประเทศสมาชิกเพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน และให้ สทนช. ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับงานต่างๆ ของคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยต่อไป
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของลุ่มน้ำโขงตอนล่างในช่วงฤดูฝนปีนี้มีน้ำมาก โดยพยากรณ์จากสถานการณ์ El Nino Southern Oscillation หรือ เอนโซ่ (ENSO) ในเดือน พ.ย.65-ม.ค.66 คาดการณ์ว่าจะส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติในบริเวณลุ่มน้ำโขงตอนล่าง โดย พล.อ.ประวิตร สั่งการให้ทุกฝ่ายเตรียมตัวรับมือสถานการณ์น้ำโขงในช่วงปลายปีนี้ พร้อมเน้นย้ำให้ฝ่ายไทยผลักดันความร่วมมือภายใต้คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ในการพัฒนาระบบคาดการณ์และระบบเตือนภัยให้เข้าถึงประชาชน
ทั้งนี้ สทนช.จะมีการติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้าให้ได้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบและดูแลประชาชนในพื้นที่ริมฝั่งโขงอย่างเต็มประสิทธิภาพ