น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเน้นย้ำการจัดการขยะทั่วประเทศให้ได้ตามเป้าหมายที่ 80% ยกระดับการบริการจัดการขยะมูลฝอย โดยให้ความสำคัญกับการจัดการขยะ ณ ต้นทาง ตามวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Product Life Cycle) ครอบคลุมถึงการกำจัดขยะ ณ ปลายทาง เพื่อนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างคุ้มค่า ส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจ BCG
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางการจัดการขยะเป็นประเด็นสำคัญที่รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด คณะรัฐมนตรีได้รับทราบแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะของประเทศ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2565-2570) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งแผนปฏิบัติการฯ ฉบับที่ 2 จะเป็นแผนที่ดำเนินการต่อเนื่องจากแผนแม่บทการบริหารจัดการขยะมูลฝอย (พ.ศ. 2559-2564) ซึ่งมีผลการดำเนินการ เช่น การจัดการขยะมูลฝอยอย่างถูกต้อง สำเร็จ 69% (เป้าหมาย 75%) การจัดการของเสียอันตรายชุมชน สำเร็จ 22% (เป้าหมาย 30%) และการจัดการมูลฝอยติดเชื้อ สำเร็จ 90.85% (เป้าหมาย 100%) ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด
ทั้งนี้ จากปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยชุมชนของรัฐและเอกชนส่วนใหญ่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ระบบติดตาม กำกับและควบคุมการดำเนินงานของสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยยังไม่ทั่วถึงและเพียงพอ รวมถึงกฎหมายในการจัดการขยะมูลฝอยในปัจจุบันไม่สามารถกำกับดูแลให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ดังนั้น แผนปฏิบัติการฯ ฉบับที่ 2 จึงเน้นการจัดลำดับความสำคัญของการจัดการขยะรูปแบบใหม่ และการบริหารจัดการขยะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
โดยแผนปฏิบัติฯ ฉบับที่ 2 มีเป้าหมายที่สำคัญ เช่น ขยะมูลฝอยชุมชนได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 80%, ของเสียอันตรายชุมชมได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 50% และมูลฝอยติดเชื้อได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง 100% ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการจัดการที่ครอบคลุมทั้งการจัดการขยะพลาสติก ขยะบรรจุภัณฑ์ ขยะอาหาร ขยะมูลฝอยชุมชน ของเสียอันตรายชุมชน ซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลฝอยติดเชื้อ และกากอุตสาหกรรมที่เป็นอันตราย ให้ความสำคัญกับการจัดการ ณ ต้นทาง ตามวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันการเกิดขยะ ตั้งแต่การออกแบบการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco Design) ส่งเสริมการบริโภคที่ยั่งยืนโดยเลือกใช้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถใช้ซ้ำและเรียกคืนกลับไปรีไซเคิล มีระบบการคัดแยก ณ แหล่งกำเนิด เพื่อให้มีการนำทรัพยากรกลับคืนจากของเสียให้มากที่สุดทั้งในรูปแบบวัสดุรีไซเคิล (Material recovery) และพลังงาน (Energy recovery) เพื่อให้เหลือขยะที่ต้องกำจัดให้น้อยที่สุด (Final disposal)
"รัฐบาลมุ่งแก้ไขปัญหาการจัดการขยะอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรทุกประเภทให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน คำนึงถึง ขยะ ว่าคือทรัพยากรที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และการกำจัดขยะต้องไม่เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับสิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำไว้ในงานประชุม Global Compact Network Thailand Forum (GCNT 2022) ที่ผ่านมาว่า ทุกภาคส่วนของสังคมต้องมีส่วนร่วม โดยอาศัยการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด จัดการทรัพยากรให้คุ้มค่า ลดและบริหารจัดการของเสีย ไปจนถึงการส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน" น.ส.รัชดา กล่าว