นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยินดีที่ได้ทราบว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้คาดการณ์ให้ในปี พ.ศ. 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทย เป็นจำนวนกว่า 18 ล้านคน ทั้งนี้ จากข้อมูลของ ททท. คาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวน 18 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท ส่วนการประมาณการตลาดในประเทศ ททท.คาดว่าจะสร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 1.73 ล้านล้านบาทตลอดทั้งปี
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 ต.ค.65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้วกว่า 7.56 ล้านคน และในเดือน พ.ย.และ ธ.ค.นี้ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยอีกราวเดือนละอีก 1.5 ล้านคน ดังนั้นในปีนี้ ไทยน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคนตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (พ.ย.-ธ.ค.65) คาดว่าจะมีไฟล์ทบินมาประเทศไทยถึง 15,778 ไฟล์ท โดยตลาดนักท่องเที่ยวจากอินเดีย และมาเลเซีย มีอัตราส่วนผู้โดยสารต่อไฟล์ทบินถึง 85% และ 68% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2565 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เอเชียใต้ และเอเชียแปซิฟิกสูงถึง 4.1 ล้านคน คิดเป็น 54% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปีนี้ ในขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยวจากเอเชียตะวันออก ได้กลับมาท่องเที่ยวอีกครั้งเป็นจำนวนกว่า 8 แสนคน คิดเป็น 11% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ทั้งนี้ในปีหน้า ตลาดการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง
"นายกรัฐมนตรี ยินดีที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกยังคงให้ความสำคัญ นิยมการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยือน และสามารถต่อสู้ทางการตลาดกับประเทศอื่นๆ ได้อย่างมีศักยภาพ แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มทยอยฟื้นตัวจากโควิด และเปิดรับนักท่องเที่ยวกันแล้วก็ตาม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มจำนวนบุคลากรเพื่อให้การบริการและรองรับการเดินทางที่สูงขึ้น โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการตรวจเอกสารสำคัญของผู้เดินทางในด่านแรก ทั้งขาเข้าและขาออก เช่น สนามบินต่างๆ โดยให้เพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวกให้ผู้ที่เดินทาง ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติและผู้ใช้บริการให้รวดเร็วและคล่องตัว" นายอนุชา กล่าว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ร่วมดำเนินงานตอบรับตามแนวนโยบายของรัฐบาลในการสนับสนุนการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง และเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งขอบคุณประชาชนทุกคนที่มีส่วนร่วม ทำให้ไทยมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ มีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว รักษากระแสความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง