พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังนำคณะตรวจความพร้อมในการดูแลความเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทง บริเวณสะพานพระราม 8 ว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยทุกพื้นที่ที่มีการจัดงานประเพณีลอยกระทง เพิ่มความเข้มดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพื้นที่ ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจน้ำกว่า 20,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัยงานลอยกระทง
โดยกำหนดมาตรการ ดังนี้
1.มาตรการป้องกัน ให้สายตรวจเพิ่มความเข้มการออกตรวจตรา ปรากฎกาย สถานที่จัดงาน สถานบริการ สวนสาธารณะ หรือสถานที่ที่ประชาชนนักท่องท่องเที่ยวจะรวมตัวจำนวนมาก เพื่อป้องกันเหตุคดีทะเลาะวิวาท คดีชีวิต ร่างกาย เพศ และทรัพย์สิน ในส่วนของตำรวจน้ำ ให้จัดเรือพร้อมเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราตามบริเวณลำน้ำ เพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำ รวมถึงประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงไปบริเวณท่าเทียบเรือ หรือโป๊ะ เกินจำนวนที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
2.มาตรการจราจร จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่จัดงาน และทำแผนที่เส้นทางหลัก ทางเลี่ยงให้ประชาชนทราบก่อนการจัดงาน
3.มาตรการปราบปราม ให้กวดขันจับกุมผู้เล่นดอกไม้เพลิง พลุ และประทัด ในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญ น่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายประชาชน กรณีเป็นผู้กระทำผิดเป็นเด็ก ให้นำ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 เพื่อให้ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ รวมทั้งร่วมกับฝ่ายปกครองกวดขันควบคุมผู้ผลิตจำหน่ายดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด หากพบว่าลักลอบทำผิดกฎหมายให้จับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
4.มาตรการรักษาความปลอดภัย ให้มีการหาข่าวป้องกันข้อมูลของกลุ่มมิจฉาชีพที่จะเข้ามาฉกฉวยโอกาสก่อเหตุ แก๊งต้มตุ๋นมิจฉาชีพ อาชญากรรมความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ คดีอนาจาร รวมทั้งออกแผนตรวจในการดูแลความเรียบร้อยของพื้นที่จัดงาน ในส่วนของสถานที่จัดขนาดใหญ่ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) เพื่อควบคุมดูแลภาพรวมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
5.มาตรการประชาสัมพันธ์ ให้ทุกหน่วยทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ สถานบริการในการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะการเล่นพลุ ดอกไม้เพลิง การปล่อยโคมลอยบนท้องฟ้า ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 27/2559 รวมทั้งการขอความร่วมมือให้ช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุต่างๆ
นอกจากนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับลงควบคุมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความสงบเรียบร้อยของประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทง
ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้กำชับให้ข้าราชการตำรวจทุกนาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ด้วยความสุภาพและเหมาะสม ตามหลักยุทธวิธีในช่วงเทศกาลลอยกระทง
พร้อมกันนี้ ได้ขอความร่วมมือประชาชนให้ร่วมงานลอยกระทงแบบสร้างสรรค์ สืบสานประเพณีไทย สร้างวัฒนธรรมที่ดีของคนไทยสู่สายตานักท่องเที่ยว เตือนการเล่นดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด โคมลอย หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ จะมีความผิดตามคำสั่ง หน.คสช. ที่ 27/59 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องชดใช้ค่าเสียหายในทางแพ่งอีกด้วย รวมทั้งการยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันควร การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนทางในขณะขับขี่หรือโดยสาร ที่นำมาซึ่งความสูญเสียทุกปี ผู้กระทำต้องรับโทษทางอาญา
ส่วนผู้ปกครอง ควรดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และควรสอนบุตรหลานว่าดอกไม้ไฟ พลุ และประทัดไม่ใช่ของเล่น เป็นวัตถุอันตรายสำหรับเด็ก และไม่ควรให้เด็กอยู่ใกล้กับบริเวณที่มีการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ การระมัดระวังเรื่องการพลัดหายของเด็กตามสถานที่จัดงาน รวมทั้งการถูกล่อลวงทางเพศ
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นเหตุต้องสงสัย แจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อที่หมายเลข 1599 หรือ 191 ตลอด 24 ชม.
ด้านนายภูริพัฒน์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ได้จัดทำแผนการปฏิบัติมาตรการเพื่อความปลอดภัยในวันลอยกระทงเพิ่มอีก 3 ฉบับ คือ 1.กำหนดให้แม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่ควบคุมการเดินเรือในวันลอยกระทง ห้ามเรือเดินทะเล เรือที่ลากจูงเรือลำเลียงสินค้า และเรือบรรทุกสินค้าอันตราย เดินผ่านเขตควบคุมการเดินเรือ 2.เรื่องมาตรการเพื่อความปลอดภัยในวันลอยกระทง และ 3.เตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินเรือและใช้เรือในวันลอยกระทง
ขณะที่นายวัชรพงศ์ วันนู ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตบางพลัด กล่าวว่า ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆ ดูแลการจัดงานบริเวณใต้สะพานพระราม 8 รวมทั้งสิ้นจำนวน 290 นาย และนอกจากนี้ ยังจัดกำลังดูแลความปลอดภัยบริเวณโป๊ะต่างๆอีกกว่า 40 นาย ทั้งนี้ เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณโป๊ะต่างๆ ในเขตพื้นที่ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนด้วย