นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้เตรียมพร้อมมาตรการด้านต่างๆ สำหรับเทศกาลลอยกระทง ประจำปี 65 นี้ เพื่อให้การจัดงานทุกพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลอดภัย ซึ่งประชาชนสามารถไปลอยกระทง ณ สวนสาธารณะที่กทม. เปิดให้ลอยกระทง ระหว่างเวลา 05.00 - 24.00 น.
สำหรับสวนสาธารณะ ประกอบด้วย 33 แห่ง ได้แก่ เขตปทุมวัน สวนลุมพินี เขตจตุจักร สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ เขตลาดกระบัง สวนพระนคร สวน 60 พรรษา สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เขตพระนคร สวนสราญรมย์ สวนรมนีนาถ สวนสันติชัยปราการ เขตทุ่งครุ สวนธนบุรีรมย์ เขตบึงกุ่ม สวนเสรีไทย สวนนวมินทร์ภิรมย์ เขตหนองจอก สวนหนองจอก สวนราษฎร์ภิรมย์ เขตคลองเตย สวนเบญจสิริ สวนเบญจกิติ เขตมีนบุรี สวนบึงกระเทียม สวนพระยาภิรมย์ เขตคลองสามวา สวนวารีภิรมย์
สวนสิริภิรมย์ เขตบางคอแหลม สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา เขตราชเทวี สวนสันติภาพ เขตบางเขน สวนกีฬารามอินทรา เขตดอนเมือง สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตประเวศ สวน 50 พรรษา มหาจักรีสิรินธร สวนวนธรรม เขตทวีวัฒนา สวนทวีวนารมย์ เขตบางพลัด สวนหลวงพระราม 8 เขตลาดพร้าว สวนสาธารณะบึงน้ำลาดพร้าว 71 เขตบางกอกน้อย สวนสิรินธราพฤกษาพรรณ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเขตสาทร สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา (สาทร) เขตบางแค สวนบางแคภิรมย์ เขตบางขุนเทียน สวนเทียนทะเลพัฒนาพฤกษาภิรมย์
โฆษก กทม. กล่าวว่า ในส่วนของการเตรียมการจัดเก็บกระทงภายหลังเสร็จสิ้นงาน หน่วยงานของ กทม. จะแบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น 3 ส่วน โดยสำนักสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบจัดเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่สะพานพระราม 8 ถึงสะพานพระราม 9 ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร และในสวนสาธารณะของกทม. ส่วนสำนักการระบายน้ำ รับผิดชอบจัดเก็บกระทงในคูคลองและบึงรับน้ำ และสำนักงานเขตจัดเก็บกระทงในสวนสาธารณะและพื้นที่จัดงานในพื้นที่เขต
ในการจัดเก็บกระทงในแม่น้ำเจ้าพระยา สำนักสิ่งแวดล้อม ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ และวัสดุ อุปกรณ์ ยานพาหนะในการจัดเก็บกระทงจำนวน 189 คน เรือเก็บขยะจำนวน 30 ลำ ติดตั้งไฟส่องสว่างทุกลำ เรือขนถ่ายและลำเลียงวัชพืชจำนวน 2 ลำ จอดที่ปากคลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร เรือเก็บขนและลำเลียงวัชพืชจำนวน 2 ลำ เรือตรวจการณ์จำนวน 2 ลำ รถตรวจการณ์จำนวน 5 คัน รถบรรทุกเทท้ายจำนวน 9 คัน ใช้ในการลำเลียงกระทงไปส่งที่สถานีขนถ่ายมูลฝอย
ทั้งนี้ จะปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันที่ 8 พ.ย. 65 จนถึงเวลา 05.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. 65 จากนั้นจะลำเลียงกระทงที่จัดเก็บได้ขึ้นรถ 2 จุด คือบริเวณปากคลองโอ่งอ่าง เขตพระนคร และท่าคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ เขตราษฎร์บูรณะ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะรวบรวมขนย้ายไปกำจัดที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยทั้ง 3 แห่งของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สถานีขนถ่ายมูลฝอยอ่อนนุช หนองแขมและสายไหมเพื่อกำจัดต่อไป สำหรับกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ จะมีการคัดแยกเข้าโรงงานผลิตปุ๋ยอินทรีย์หนองแขม ซึ่งเป็นการนำกระทงกลับมาใช้ประโยชน์ และลดภาระค่าใช้จ่ายในการนำกระทงไปฝังกลบ
นอกจากนี้ สำนักงานสวนสาธารณะ สำนักงานเขต และสำนักการระบายน้ำ จะรวบรวมผลการจัดเก็บกระทง ส่งให้สำนักสิ่งแวดล้อมก่อนเวลา 05.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. 65 พร้อมตรวจสอบข้อมูลก่อนรายงานผลการจัดเก็บกระทงให้เสร็จภายในเวลา 07.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. 65 และจะรายงานผลผ่านเว็บไซต์ www.bangkok.go.th และสื่อออนไลน์ของ กทม.ด้วย
สำหรับสถิติการจัดเก็บกระทงในปี 64 ที่ผ่านมา กทม.จัดเก็บกระทงได้ 403,235 ใบ จากสถิติการจัดเก็บกระทง เมื่อเทียบกับปี 63 ปริมาณกระทงที่จัดเก็บได้ 492,537 ใบ และแนวโน้มปริมาณกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เพิ่มขึ้นจาก 96.40% เป็น 96.46% ในขณะที่การใช้กระทงโฟมมีปริมาณลดลงจาก 3.60% เป็น 3.54%
ทั้งนี้ เนื่องจาก กทม.ได้มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ให้ประชาชนหันมาใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติหรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่าย เช่น กระทงที่ทำจากหยวกกล้วยและใบตอง แป้งมันสำปะหลัง ชานอ้อย ซึ่งจะเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งด้วย และได้ขอความร่วมมือเขตแจ้งสถานประกอบการที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และคลองในพื้นที่ที่มีการลอยกระทงงดใช้กระทงโฟม
อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา กทม.พบปัญหาในการจัดเก็บกระทง ได้แก่ ปัญหาไฟฟ้าส่องสว่างในแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การจัดเก็บกระทงเป็นไปได้ยาก ปัญหาปริมาณผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการจัดเก็บกระทง และการพบตะปู เข็มหมุด ปนมากับกระทง ทำให้เกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่จัดเก็บกระทงและทำให้เครื่องจักรเสียหาย
โฆษก กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเพณีลอยกระทง เป็นประเพณีที่ถือเป็นที่นิยมสำหรับชาวไทย เป็นประเพณีเก่าแก่และเป็นการสืบสานประเพณีไทยอย่างหนึ่ง ขณะเดียวกัน การส่งเสริมการลอยกระทงควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ควรรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งวิธีลดปริมาณขยะหลังคืนลอยกระทง คือ ให้ประชาชนลอยกระทงร่วมกัน โดยร่วมลอย 1 ครอบครัว/1 คู่รัก/1 กลุ่ม/1 สำนักงานต่อ 1 กระทง และเลือกกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ขนาดเล็ก ใช้วัสดุไม่หลากหลาย เพื่อลดภาระในการคัดแยก
"ในเทศกาลลอยกระทงปีนี้ เชิญชวนให้ประชาชนใช้กระทงธรรมชาติ ลดการใช้กระทงโฟม โดยหันมาใช้กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระทงน้ำแข็ง กระทงที่ทำจากหยวกกล้วยและใบตอง แป้งมันสำปะหลัง ชานอ้อย หรือกระทงขนมปัง เนื่องจากกระทงดังกล่าวจะไม่ทำลายสภาพแวดล้อม หากเก็บกระทงไม่หมดก็จะย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งแตกต่างจากกระทงโฟมที่ต้องกำจัดโดยการนำไปฝังกลบ และใช้เวลานานในการย่อยสลาย" โฆษก กทม. กล่าว