นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานมอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ปี 2566 และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในปี 2566 ที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีแนวโน้มที่จะมีสภาวะแห้งแล้งมากขึ้น จากสภาพอากาศที่หนาวเย็น มีปริมาณฝนน้อย และปรากฏการณ์ "ลานีญา" ที่เริ่มน้อยลง
โดยแผนเฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2566 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้มุ่งเน้นยกระดับความเข้มงวดใน 3 พื้นที่ ได้แก่ 1) พื้นที่เมือง 2) พื้นที่ป่า และ 3) พื้นที่เกษตรกรรม ภายใต้ 7 มาตรการ ตามกรอบ "สื่อสารเชิงรุก ยกระดับปฏิบัติการ สร้างการมีส่วนร่วม" ประกอบด้วย
1) เร่งรัดการประชาสัมพันธ์เชิงรุกและแจ้งเตือนล่วงหน้า 7 วัน ทุกพื้นที่ 2) ยกระดับมาตรการการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ "การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง" และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง 3) ยกระดับการบริหารจัดการเชื้อเพลิงแบบครบวงจร (ชิงเก็บ ลดเผา และ Burn Check) 4) กำกับดูแลการดำเนินการในทุกระดับอย่างเข้มงวด ติดตามผลการดำเนินการและประเมินสถานการณ์เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง 5) ลดจุดความร้อน ป้องกันและควบคุมการเกิดไฟในทุกพื้นที่ และพัฒนาระบบพยากรณ์ความรุนแรงและอันตรายของไฟ (Fire Danger Rating System : FDRS) 6) ผลักดันกลไกระหว่างประเทศ เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนมีประสิทธิภาพสูงสุด และ 7) ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนและดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละออง
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีสาเหตุหลักมาจากการจราจร ซึ่งนอกจากแผนเฉพาะกิจฯ แล้ว ยังได้เสริมมาตรการร่วมกับผู้ประกอบการค้าน้ำมัน ที่จะนำน้ำมันที่มีปริมาณกำมะถันต่ำมาจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาปกติ ในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพื่อช่วยคุณภาพอากาศในเมืองใหญ่ให้ดีขึ้น รวมถึงยังได้รับความร่วมมือจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประสานงานกับผู้ประกอบการยานยนต์กว่า 11 บริษัท เปิดให้ประชาชนนำรถเข้าทำความสะอาดเครื่องยนต์ และเปลี่ยนไส้กรองในราคาพิเศษ
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้เข้มงวดกับรถยนต์ของส่วนราชการ ที่ต้องมีมาตรฐานเข้มงวดกว่ามาตรฐานที่มีต่อประชาชน ซึ่งหากตรวจพบและไม่มีการแก้ไขภายใน 30 วัน จะมีการติดตามผลไปยังหน่วยงานเจ้าของยานพาหนะนั้นด้วย
ในส่วนของต่างจังหวัด สาเหตุหลักของปัญหาไฟป่า หมอกควัน ยังคงมาจากการเผาไหม้ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่เกษตร ในปีนี้ จึงได้ขอความร่วมมือไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อลดปริมาณการเผาในพื้นที่ ทั้งการเคาะประตูบ้านแจ้งข่าวทำความเข้าใจ การประชาสัมพันธ์เชิงรุก และการแจ้งเตือนล่วงหน้า ตลอดจนยังคงกำชับให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในแต่ละพื้นที่แบบครบวงจร ทั้งการชิงเก็บ ลดเผา และการใช้แอปพลิเคชัน Burn Check เพื่อลงทะเบียนและจองเวลาในการเผาล่วงหน้า เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ ยังคงมีการประสานงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอให้ประสานงานเรื่องหมอกควันข้ามแดน กับสำนักเลขาธิการอาเซียนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากประเทศใกล้เคียง