น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับการให้เอกสิทธิ์ การยกเว้น และสิทธิประโยชน์แก่ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ที่ดำเนินโครงการภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลญี่ปุ่น และให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฉบับดังกล่าว ร่วมกับผู้ได้รับมอบอำนาจจากฝ่ายญี่ปุ่น
สาระสำคัญของร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ได้แก่ กรณีที่ JICA ส่งทีมงานหรือผู้เชี่ยวชาญของญี่ปุ่นมาดำเนินโครงการภายใต้ความตกลงฯ ในไทย รัฐบาลไทยจะให้เอกสิทธิ์และสิทธิประโยชน์แก่ผู้เชี่ยวชาญและทีมงาน พร้อมทั้งสมาชิกครอบครัว ที่พำนักอยู่ในไทย เช่น การยกเว้นการเก็บภาษี หรือค่าธรรมเนียมจากเบี้ยเลี้ยง หรือค่าตอบแทนที่ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญ จากโครงการความร่วมมือทางเทคนิค และการยกเว้นภาษีศุลกากร และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญในการนำเข้าเครื่องใช้ส่วนตัว และเครื่องใช้ในครัวเรือน เป็นต้น
นอกจากนี้ จะมีการอำนวยความสะดวกทางด้านอุปกรณ์ เครื่องจักรกล และวัสดุที่ได้รับจัดสรรภายใต้ความตกลงฯ โดยหนังสือแลกเปลี่ยนจะมีผลบังคับใช้นับแต่วันที่ไทยลงนามหนังสือตอบ และมีผลบังคับใช้ตราบเท่าที่ความตกลงฯ ยังคงบังคับใช้
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้ประสานเป็นการภายในว่า JICA จะสนับสนุนการดำเนินโครงการในไทย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ความร่วมมืออาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาบุคลากรความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ระหว่างปี 2566-2569 ซึ่งศูนย์ดังกล่าว จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อปี 2561 เพื่อยกระดับขีดความสามารถด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐของประเทศสมาชิกอาเซียนในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์
ส่วนอีกโครงการ คือ การดำเนินงานของศูนย์อาเซียนด้านภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ซึ่งไทยจะเป็นที่ตั้งของสำนักเลขาธิการและสำนักงานด้านการตอบสนอง โดยญี่ปุ่นสนับสนุนงบประมาณ 49.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในการจัดตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการส่งผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคมายังศูนย์ฯ ด้วย โดยญี่ปุ่นจะส่งผู้เชี่ยวชาญมาภายในเดือนพฤศจิกายน 2565 และได้แสดงความประสงค์ให้มีการลงนามร่างหนังสือแลกเปลี่ยนฯ ก่อนการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 25 ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 12 พ.ย.65