ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรม ทั้งกลุ่มทะลุแก๊ซ กลุ่มราษฎร แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เครือข่ายแรงงาน ภายใต้ชื่อ "ราษฎรหยุด APEC 2022" ได้ตระเวนเดินทางไปยังสถานทูต โดยเริ่มจากสถานทูตออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยในปัจจุบัน และจุดยืนที่มีต่อการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ APEC 2022 โดยเชื่อมั่นว่า การประชุมเอเปค ไม่ควรเป็นเวทีในการสร้างความชอบธรรมให้กับผู้นำที่ได้อำนาจมาจากกระบอกปืน ไม่ใช่อาณัติของประชาชน
หลังจากได้ยื่นหนังสือสถานทูตสหรัฐฯ เป็นที่สุดท้าย ทางกลุ่มราษฏร ได้อ่านแถลงการณ์ ระบุว่า หลังการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีในปี 62 ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ไม่ปกติ ส่งผลให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหาร กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง การกลับมาของรัฐบาลเผด็จการ นำไปสู่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วประเทศในปี 2563 ซึ่งมีข้อเรียกร้องสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และองคาพยพ ต้องลาออก 2) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และ 3) ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย
นักกิจกรรมทางการเมืองเพื่อประชาธิปไตย นักการเมือง และ NGOs ไม่น้อยกว่า 30 ราย ต้องตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสิทธิมนุษยชน จากการใช้สปายแวร์ในเครื่องมือสื่อสาร และการแอบติดอุปกรณ์ GPS ในรถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อสอดส่องข้อมูลส่วนตัว ดักจับสัญญาณ และติดตามความเคลื่อนไหวของประชาชนในทุกย่างก้าว
พร้อมทั้งระบุว่า จะมีการนัดชุมนุมใหญ่ ที่แยกอโศก เวลา 12.00 น. วันที่ 17 พ.ย.นี้
ขณะที่บริเวณโดยรอบ มีตำรวจในเครื่องแบบ และนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่ง ประจำการรักษาความปลอดภัย และคอยเฝ้าสังเกตการณ์