น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ทบทวนมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 ที่กำหนดค่าธรรมเนียมในการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล ระยะเวลา 1 ปี (Medical Treatment Visa) รหัส Non-MT โดยให้ปรับลดค่าธรรมเนียม จากเดิมรายละ 6,000 บาท เหลือรายละ 5,000 บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ สำหรับประเภท VISA เพื่อการรักษาพยาบาลได้สอดรับกับระยะเวลาและกระบวนการรักษาพยาบาลในปัจจุบัน ผู้ป่วยชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าออกในไทยได้หลายครั้ง (Multiple Entry) ครั้งละไม่เกิน 90 วัน ในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ระบบวีซ่าประเภทนี้ในวันที่ 1 ม.ค.66
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ตามนโยบายรัฐบาลด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) (พ.ศ.2560-2569) และให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างรายได้และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ครม. จึงมีมติให้พิจารณากำหนดค่าธรรมเนียมในการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล ระยะเวลา 1 ปีสำหรับผู้ป่วยชาวต่างชาติที่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้ากับสถานพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลในอัตรารายละ 5,000 บาท ให้เป็นไปตามกฎกระทรวง (พ.ศ. 2523) ออกตามความใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ 27 (พ.ศ.2546) ออกตามความใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎกระทรวง ฉบับที่ 28 (พ.ศ. 2549) ออกความตามใน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติทราบอย่างทั่วถึงต่อไป
"การขอรับการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาลระยะเวลา 1 ปี เมื่อครบกำหนด 1 ปีแล้ว ไม่สามารถขยายอายุต่อได้ หรือ Medical Treatment Visa รหัส Non-MT ที่จะต้องรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุก 90 วัน ผู้ขอจะต้องมีการยื่นเอกสารการนัดหมายกับสถานพยาบาล (Confirmation Letter) หลักฐานการเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายภายในประเทศเป็นเงินสดไม่น้อยกว่า 800,000 บาท หลักฐานการเงินที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เอกสารแสดงประกันภัยกรณีอุบัติเหตุและการช่วยเหลือฉุกเฉิน รวมความคุ้มครองการรักษาโควิด-19 ในประเทศไทย และการขออยู่ต่อจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และสถาบันทางการแพทย์ภาครัฐเท่านั้น" น.ส.ทิพานัน กล่าว
สำหรับกลุ่มโรคที่อนุญาตให้เข้ารับการขอรับการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล เฉพาะผู้ที่มารับบริการในกลุ่มโรคหรือหัตถการที่มีระยะเวลารักษาต่อเนื่องที่ต้องใช้เวลามากกว่า 90 วัน โดยสถานพยาบาลต้องมีแผนการรักษา (Doctor Plan) และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ได้แก่ เวชศาสตร์ชะลอวัยและการฟื้นฟูสุขภาพ การแพทย์ทางเลือก โรคระบบหัวใจหลอดเลือด โรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ทันตกรรม เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันทางการแพทย์ โรคมะเร็ง ศัลยกรรมเสริมความงาม จักษุ การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ การรักษาแบบเฉพาะเจาะจง โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง โรคอื่นๆ ที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล โดยรับรองเป็นรายกรณี โดยกระทรวงสาธารณสุขจัดทำเอกสารกลุ่มโรคและหัตถการเพื่อการรับรอง