พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ในฐานะโฆษกกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรการประชุมเอเปค 2565 (กอร.) กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมในช่วงการประชุมเอเปคว่า เมื่อเวลาประมาณ 08.50 น. กลุ่มราษฎรหยุด APEC 2022 ที่ปักหลักชุมนุมบริเวณลานคนเมืองจำนวนประมาณ 350 คน ได้เคลื่อนขบวนเพื่อเดินทางไปยื่นข้อเรียกร้องต่อการประชุมเอเปค โดยเคลื่อนขบวนฝ่าฝืนข้อกำหนดและเงื่อนไขฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เจรจา แจ้ง และประชาสัมพันธ์ผู้ชุมนุมฯ ให้ทราบอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมฯ ได้ฝ่าฝืนโดยใช้เคลื่อนขบวนมาถึงบริเวณถนนดินสอ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้เครื่องเสียงประกาศ เจรจา และแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม ฝ่าฝืนกฎหมาย และได้ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ขว้างปาก้อนหิน และสิ่งของ ทำลายรถยนต์กระบะของทางราชการเสียหาย มีการใช้กำลังทำร้าย และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน
การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุมเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยฝ่าฝืนเงื่อนไข คำสั่งเจ้าพนักงานฯ มีการพ่นสเปรย์ขีดเขียน ใช้ก้อนหินและไม้ทำร้ายทุบตี ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งการทำลายทรัพย์สินของทางราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่อให้เห็นถึงเจตนาให้เกิดความรุนแรง เกิดความไม่สงบ
โดยเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ได้มีหนังสือแจ้งการปฏิบัติในการชุมนุมสาธารณะให้ตัวแทนทราบตามประกาศดังกล่าวแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตาม ตำรวจจึงมีความจำเป็นต้องใช้กำลังป้องกันตนเอง และทำการจับกุมผู้กระทำความผิดจำนวน 25 ราย ซึ่งจะถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ, ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย, วางเพลิงเผาทรัพย์สินผู้อื่น, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ทำร้ายร่างกาย, พ.ร.บ.จราจรทางบก, พ.ร.บ.การรักษาความสะอาด และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานในกรณีที่มีความผิดตามกฎหมายอื่น ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 นาย
ส่วนกรณีที่มีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น กอร. ได้วางมาตรการป้องกันด้วยการลงทะเบียน, สวมปลอกแขนสัญญลักษณ์ และกำหนดพื้นที่ปลอดภัย และไม่รบกวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
โฆษก กอร.กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยตามกฎหมาย ตามอำนาจหน้าที่ พยายามหลีกเลี่ยงการใช้กำลัง เน้นการเจรจา พูดคุย ทำความเข้าใจทุกฝ่าย หากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กำลัง ให้ใช้กำลังให้น้อยที่สุด มีสัดส่วนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้บัญชาการเหตุการณ์ในขณะนั้น ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ทุกเหตุการณ์จะต้องมีคำตอบให้กับสาธารณชนโดยเร็ว
"ตำรวจมีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายและตามแผน ล่าสุดยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ ไม่มีเหตุรุนแรง" พล.ต.ต.อาชยน กล่าว
ส่วนกรณีที่มีการใช้กระสุนยางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตามประกาศ สนร.นั้น เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์เพื่อการป้องกันตนเองจากผู้ที่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ และเพื่อจะจับกุมผู้กระทำความผิดซึ่งหน้า มีการต่อสู้ ขัดขวาง และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดเป็นไปตามหลักกฎหมาย ตามยุทธวิธี เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบเรียบร้อย