นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบแห่งชาติ (คผยช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบให้เสนอรัฐบาล พิจารณาให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย เนื่องจากในปัจจุบัน ปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย บุหรี่หนีภาษี หรือบุหรี่เถื่อน ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
โดยพบการลักลอบนำบุหรี่เถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าไทยผ่านพรมแดนต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือบุหรี่เถื่อนที่นำเข้ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับบุหรี่ที่เสียภาษีและปฏิบัติตามกฎระเบียบของภาครัฐ เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ยาสูบ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนติดบุหรี่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้รายได้จากภาษีที่รัฐเก็บจากสินค้าบุหรี่น้อยลง ขณะที่คนไทยสูบบุหรี่เพิ่มสูงขึ้น
นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า การเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสารว่าด้วยการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย ภายใต้กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WTO) เป็นการจัดการปัญหาการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมายที่ตรงจุด และครอบคลุมรอบด้าน
"การเข้าร่วมเป็นภาคีพิธีสารฯ ดังกล่าว จะเกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยหลายมิติ โดยเฉพาะปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายจะลดลง รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากสินค้าเสพติดและทำลายสุขภาพได้มากขึ้น การบริโภคผลิตภัณฑ์ยาสูบของคนไทยลดลง ลดค่าใช้จ่ายของรัฐในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากบุหรี่ และทำให้ประชาชนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้น" นพ.โสภณ กล่าว
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรค ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ทั้งเชิงเทคนิค วิชาการ และข้อกฎหมายเรียบร้อยแล้ว โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับคณะผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการคลัง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติหลัก เพื่อให้เป็นไปตามพิธีสารฉบับนี้ ซึ่งหากรัฐบาลให้ความเห็นชอบการเข้าเป็นภาคีภายใต้พิธีสารว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมาย จะสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ทันที