น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีนโยบายให้หน่วยงานราชการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ บูรณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงพัฒนาแพลตฟอร์มการให้บริการภาคเอกชนและการให้บริการประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ เข้าถึงง่าย ซึ่งได้ทำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เรียนรู้และปรับตัวเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
ปัจจุบันหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน ได้ขับเคลื่อนนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน สร้างความพึงพอใจต่อผู้ใช้บริการ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นหน่วยงานดิจิทัล โดยที่ผ่านมา อย. ได้พัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ "Oryor Smart Application Versions 2" โดยเพิ่มฟังก์ชันการให้บริการหลากหลายเมนูอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถตรวจสอบหมายเลขผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง อาหาร และวัตถุอันตราย รวมถึงสามารถค้นหาร้านขายยาได้ทั่วทั้งประเทศ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสื่อสารที่จะช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิตอลอย่างแพร่หลาย
น.ส.รัชดา กล่าวต่อไปว่า นอกจากการพัฒนาระบบให้บริการแล้ว ปัจจุบัน อย.ได้จัดระบบให้คำปรึกษาแนะนำ อำนวยความสะดวก และลดเวลาขึ้นทะเบียนให้เหลือไม่เกิน 120 วัน (จากที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง 330 วัน) หากเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง และสมบูรณ์ โดยไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติม เช่น กรณีของ "สเปรย์พ่นจมูกสารสกัดจากเปลือกมะนาว" ที่ทำการศึกษาวิจัยในเบื้องต้นพบว่าอาจป้องกันเชื้อโควิด-ไข้หวัดใหญ่- RSV ได้นั้น โดยในขั้นตอนต่อไปจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัยในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันผลการใช้จริง จึงมานำข้อมูลการศึกษามาขึ้นทะเบียนเป็นยาพัฒนาจากสมุนไพร ที่ช่วยยับยั้งและป้องกันเชื้อไวรัสก่อโรคทางเดินหายใจ เช่น SARs-COV-2 (โควิด19) ไข้หวัดใหญ่ (H1N1) และ RSV กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ต่อไปในสรรพคุณข้างต้น
"นายกรัฐมนตรี พอใจผลการขับเคลื่อนการทำงานสู่รัฐบาลดิจิทัล ยืนยันการนำภาครัฐสู่รัฐบาลดิจิทัลเป็นแนวคิดเชิงรุกที่รัฐบาลดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถบริหารจัดการข้อมูลต่างๆ ให้ง่ายขึ้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลที่ดีได้อย่างยั่งยืน" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว