ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า จากแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลรายงานกรมควบคุมโรคในช่วงสัปดาห์ที่ 46 วันที่ 13-19 พฤศจิกายน 2565 พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายใหม่จำนวน 3,957 ราย เฉลี่ย 565 รายต่อวัน เป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 25% ขณะที่มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 69 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
เมื่อดูข้อมูลย้อนหลังพบว่า จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงอีก ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก ดังนั้นจำเป็นที่ประชาชนทุกคนต้องดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะการเน้นมาตรการป้องกันเพื่อให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 เช่น สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่แออัด การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนการสร้างภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีนที่ยังมีความจำเป็นสำหรับประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 ที่เป็นผู้มีความเสี่ยงสูง
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ส่วนประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค ดังนี้ ผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการ ขอให้พิจารณาดูแลรักษาตามความเหมาะสม โดยให้ปฏิบัติตาม DMH อย่างเคร่งครัด 5 วัน หากจำเป็นต้องออกจากบ้านหรือไปทำงานให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและระมัดระวังการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่น ส่วนกลุ่มผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ได้แก่ มีไข้ อุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 39 องศาเซลเซียสขึ้นไป โดยวัดอย่างน้อง 2 ครั้ง ห่างกัน 4 ชั่วโมงในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง มีค่าออกซิเจนในเลือดน้อยกว่า 94% มีภาวะแทรกซ้อน หรือการกำเริบของโรคประจำตัว มีภาวะอื่นๆ ที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลตามดุลพินิจของแพทย์
"ประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ในกรณีที่เจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19 สามารถใช้สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการหรือเจ็บป่วยเล็กน้อยสามารถรับบริการรับยาที่ร้านยา, บริการโควิด-19 ด้วยระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และบริการปฐมภูมิทุกที่ได้ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงขอให้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลตามสิทธิ โดย สปสช. ยังคงสิทธิประโยชน์บริการเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิดอย่างต่อเนื่อง" รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว
ทั้งนี้ บริการเพื่อดูผลผู้ป่วยโควิดสิทธิบัตรทอง มี 4 ช่องทาง ดังนี้
1.สถานพยาบาลตามสิทธิ หรือหน่วยบริการประจำ ตรวจสอบสิทธิและรายชื่อได้ที่https://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
2.หน่วยบริการปฐมภูมิทุกที่ ตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ได้แก่ ศูนย์บริการสาธารณสุข (พื้นที่ กทม.), คลินิกชุมชนอบอุ่น, สถานีอนามัย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.), หน่วยบริการปฐมภูมิของโรงพยาบาล, ศูนย์สุขภาพชุมชน เป็นต้น ดูรายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช. https://www.nhso.go.th/page/hospital เลือกประเภทการขึ้นทะเบียนที่ระบุว่า บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป หรือ หน่วยบริการประจำ
3.รับยาที่ร้านยา เฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว ดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197
4.ดูแลด้วยระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) ผ่าน 4 แอปพลิเคชันสุขภาพด้วยบริการ "COVID-19 Telemedicine" เลือกแอปฯ ใดแอปฯ หนึ่ง ดังนี้
? แอปพลิเคชัน Clicknic ให้บริการโดย บริษัท คลิกนิก เฮลท์ จำกัด https://forms.gle/hfo2Wr9jdvybn8d57 รับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ ทั้งกลุ่มสีเขียวและกลุ่ม 608 (ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี, ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรังโรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์)
? แอปพลิเคชัน MorDee (หมอดี) ให้บริการโดย บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด https://form.typeform.com/to/cNKqNz3p รับผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ เฉพาะกลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608)
? แอปพลิเคชัน Good Doctor Technology ให้บริการโดย บริษัท กู๊ด ด็อกเตอร์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) https://forms.gle/YKVMKy1p8FRDDBje7 รับเฉพาะผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียว (ไม่รับกลุ่ม 608) ที่อยู่ในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และชลบุรี เท่านั้น
? แอป Totale Telemed โดย บริษัท โททอลเล่เทเลเมด https://lin.ee/a1lHjXZn รับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกประเภท เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 ทั่วประเทศ