พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้เสียหายรวมตัวกันกว่า 140 รายขอความช่วยเหลือทางเพจ " สืบสวนนครบาล IDMB " ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกรัณย์กฤษฏิ์ ชวดชุม หรือปอ หรือ "โค้ชจอห์น" ครูสอนเทรดหุ้น โดยใช้ชื่อเรียกตนเองว่า "โค้ชจอห์น" แอบอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนเกี่ยวกับหุ้น โดยเนื้อหาที่สอนนั้นกลับมีเพียงคลิปวีดิโอ 4 คลิป ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานทั่วไป แต่โค้ชจอห์น จะสรรหาวิธีการต่างๆเพื่อให้ตนเองมีความน่าเชื่อถือ จนกระทั่งมีผู้หลงเชื่อไม่ต่ำกว่า 140 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเดินสายฉ้อโกงทางออนไลน์โดยใช้ความเชื่อทางศาสนาหลอกลวงผู้คนไปด้วย เช่น หลอกซื้อขายเช่าบูชาพระ , หลอกซื้อขายซิมโทรศัพท์เบอร์มงคล , หลอกจัดทำบุญกฐิน โดยก่อเหตุมาโชกโชนจนถึงปัจจุบัน
จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหา พบหมายจับจำนวน 3 หมายจับ ประกอบด้วย กระทำความผิดฐาน ฉ้อโกง ยักยอก ปลอมเอกสาร และใช้หรืออ้างเอกสารปลอม โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณริม ถ.ประตูขาว ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
พร้อมยึดทรัพย์สินไว้ คือ บัตร ATM จำนวน 2 ใบ สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม สำเนาสลิปที่เกี่ยวข้อง 2 แผ่น โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เอกสารระบุสัญญาร่วมลงทุน จำนวน 1 ชุด /4ใบ เอกสารอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 1 ชุด
ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธทุกข้อหาทุกหมายจับ โดยให้การในชั้นจับกุมว่า "ตนเองจบ ป.ตรี คณะรัฐศาสตร์ ย่านหัวหมาก หลังเรียนจบได้ทำงานเป็นพนักงานจัดซื้อจนถึงปี 52-53 ก็ได้ผันตัวมาเป็นพ่อค้าออนไลน์ และทำธุรกิจอีกหลายอย่าง กระทั่งได้เริ่มเข้าสู่การเทรดหุ้น แต่ด้วยราคาหุ้นตกทำให้ตนไม่มีเงินไปคืนคนอื่น จึงตัดสินใจตัดช่องทางการติดต่อ โดยมีบางรายตนเองได้จ่ายเงินชดใช้เป็น เช็คเงินสด แต่ก็เป็นเช็คที่ไม่สามารถสั่งจ่ายได้
ส่วนการฉ้อโกงขายพระนั้นอ้างว่าตนเองเป็นคนมีความรู้เรื่องพระ ไม่ได้มีเจตนาฉ้อโกงแต่อย่างใด และการย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่ใน จ.เชียงใหม่ นั้นเนื่องจากคนรู้จักให้ไปใช้ชื่อเป็นเจ้าบ้าน และปัจจุบันที่มาอยู่ที่ อ.เมืองนครศรีธรรมราช นั้นตนเองไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด ปัจจุบันก็มีความสำนึก แต่คงยังไม่มีเงินไปคืนให้กับเหล่าผู้เสียหาย"จึงนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง เพื่อส่งศาลต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บัญชาการกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(ผบก.สส.บช.น.) กล่าวว่า จากคำให้การในชั้นจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบพยานข้อมูลเสียหายและข้อมูลจากการสืบสวนนั้นขัดแย้งกัน คนร้ายรายนี้หลอกนักลงทุนหุ้น หลอกลวงขายพระเครื่อง ซึ่งต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์ในการหลอกลวง และใช้ความเชื่อเรื่องศาสนา หลอกลวงมาไม่ต่ำกว่า 4 ปี มีความชำนาญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้ตนเอง ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายนักลงทุนหุ้นหน้าใหม่ถึงขนาดยอมนำเงินมาให้คนร้ายรายนี้เทรดให้ จึงขอให้ประชาชนที่ถูกหลอกแจ้งผ่านเพจ บก.สส.บช.น. หรือท้องที่แจ้งความเพื่ออายัดตัวดำเนินคดี
และหากถูกชักชวนให้ลงทุนใดๆ ขอให้ตรวจสอบผ่านทางอินเตอร์เน็ตว่า มีชื่อหรือบัญชีธนาคารดังกล่าว แจ้งเตือนอยู่ในกลุ่มผู้หลอกลวงหรือไม่ เพื่อยืนยันก่อนทุกครั้ง