นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ปัจจุบันที่ต้นทุนในการทำประมงสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้มีเรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 50,000 กว่าลำ ที่จดทะเบียนเรือเรียบร้อยแล้ว และกำลังดำเนินการขอรับใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และเรือประมงพาณิชย์ที่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ จำนวน 9,593 ลำ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้เร่งผลักดันโครงการสินเชื่อพิเศษเพื่อเสริมสภาพคล่องฯ โดยเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีมติเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 65 อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง เฟส 2 ภายในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ และประมงนอกน่านน้ำ ให้มีแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สำหรับนำไปเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ
ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดรับสมัครให้ชาวประมงเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 65-31 ต.ค. 66 ณ สำนักงานประมงจัดหวัดชายทะเลทั้ง 22 จังหวัด และสำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพฯ
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย กล่าวว่า โครงการสินเชื่อพิเศษเพื่อเสริมสภาพคล่อง เฟส 2 ชาวประมงสามารถกู้เงินทุนได้ในอัตราดอกเบี้ย 4% ต่อปี จากอัตรา 7% ต่อปี และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% ต่อปี มีกำหนดชำระคืนเงินกู้ ไม่เกิน 7 ปี นับตั้งแต่วันที่กู้
สำหรับรูปแบบของสินเชื่อฯ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1. สินเชื่อเงินกู้ระยะสั้น เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ เช่น ค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าน้ำแข็ง ฯลฯ และ 2. สินเชื่อเงินกู้ระยะยาว เพื่อเป็นเงินทุนในการไปปรับปรุงเรือ ปรับเปลี่ยนเครื่องมือและอุปกรณ์ทำการประมง ซึ่งธนาคารของรัฐที่เข้าร่วมโครงการฯ ภายในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท มีรายละเอียด ดังนี้
1. วงเงินสินเชื่อของธนาคารออมสิน จำนวน 2,000 ล้านบาท สำหรับเรือประมงขนาดตั้งแต่ 60 ตันกรอสขึ้นไป วงเงินสินเชื่อสูงสุด รายละไม่เกิน 10 ล้านบาท
2. วงเงินสินเชื่อของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) จำนวน 3,000 ล้านบาท สำหรับเรือประมงขนาดต่ำกว่า 60 ตันกรอส วงเงินสินเชื่อสูงสุดสุด รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท
"โครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องฯ เฟส 2 เป็นผลพวงของความสำเร็จของการดำเนินโครงการฯ ครั้งแรก เมื่อปี 63-64 โดยกรมประมง และคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทยเป็นประธาน ภายใต้นโยบายช่วยเหลือชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ของรมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีชาวประมงให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ มากถึงจำนวน 5,596 ราย ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวประมง ให้สามารถกู้เงินนำไปเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ จึงขยายโครงการจากเฟส 1 เป็นเฟส 2" นายอลงกรณ์ กล่าว