นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจำหน่ายสลากดิจิทัล ผ่านแอปเป๋าตัง ในงวด 17 ม.ค.66 จะเพิ่มปริมาณสลากเป็น 17.129 ล้านใบ โดยเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย 34,258 ราย ซึ่งปริมาณสลากเพิ่มขึ้นจากงวดที่ผ่านมา 901,500 ใบ
ทั้งนี้ สำนักงานฯ มุ่งมั่นที่จะเพิ่มปริมาณสลากดิจิทัล เพื่อให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อรวมกับจุดจำหน่ายสลาก 80 ซึ่งเป็นสลากใบ ที่มีการกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศอีก 1,047 จุด จำนวนสลากประมาณเกือบ 3 ล้านฉบับ ทำให้ขณะนี้มีสลากที่จำหน่ายในราคาไม่เกิน 80 บาท ตามราคาที่กำหนดอย่างน้อย 19.5 ล้านฉบับ คิดเป็นเกือบ 20% ของปริมาณสลากทั้งหมด 100 ล้านฉบับที่สำนักงานพิมพ์ออกจำหน่าย
ทำให้ผู้ซื้อสลากมีทางเลือกในการซื้อสลากในราคา 80 บาท ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และกว้างขวาง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทุกคนเข้าถึงได้ คือ แอปเป๋าตัง และจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท โดยสำนักงานฯ สามารถเพิ่มปริมาณสลากได้ตามความต้องการจริงของสังคม
สำหรับการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมนั้น สำนักงานฯ อยู่ระหว่างดำเนินการออกผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบใหม่ ขณะนี้ ได้สรุปผลการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการออกสลากแบบ N3 และ L6 โดยเฉพาะ N3 จะเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนในการซื้อสลากได้ในราคาตามกฎหมาย เพิ่มเติมจากที่สามารถซื้อได้ในระบบสลากดิจิทัล และจุดจำหน่ายสลาก 80 บาท ซึ่งสำนักงานฯ สามารถเพิ่มได้ตามความต้องการของประชาชนอีกทางหนึ่ง และนำเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป ทั้งนี้ หากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ สำนักงานฯ สามารถดำเนินการได้ทันที
ด้าน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงการตรวจสอบการจำหน่ายสลากของตัวแทนจำหน่าย และผู้ซื้อ-จองฯ ล่วงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำสลากไปจำหน่ายต่อให้กับแพลตฟอร์มเอกชนต่างๆ หรือไม่ได้จำหน่ายด้วยตนเองว่า ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบสลากที่ถูกรางวัล จากการที่นำสลากนั้นมาขึ้นเงินรางวัล หากพบว่าเป็นสลากของตัวแทนจำหน่าย หรือผู้ซื้อจองรายใด จะใช้มาตรการเด็ดขาดในการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
รวมทั้งได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายสลาก รวมถึงการเบิกสลากที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจำหน่ายสลากของสมาคม องค์กร ให้เป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์อย่างเคร่งครัด
พ.ท.หนุน กล่าวด้วยว่า การดำเนินการกับแพลตฟอร์มเอกชน ที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด ไม่ว่าจะรวมค่าบริการเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม สำนักงานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานขายสลากเกินราคา ซึ่งปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายฯ (ปิดเว็บไซต์) ไปแล้ว 12 แพลตฟอร์ม กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอุทธรณ์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2 แพลตฟอร์ม และอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล 1 ราย ซึ่งสำนักงานฯ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องทุกงวด