พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2566 เผยสถิติอุบัติเหตุและการบังคับใช้กฎหมายเทศกาลปีใหม่ 2566 ในภาพรวมสามารถลดสถิติอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี ได้มากกว่า 5% ซึ่งถือว่า 6 วันที่ผ่านมา สำเร็จตามเป้าหมาย ดังนี้
การเกิดอุบัติเหตุสะสม 6 วัน (29 ธ.ค.65-3 ม.ค.66) จำนวน 2,201 ครั้ง ลดลง 11.89% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 65 หรือลดลง 297 ครั้ง และลดลง 25.30% กว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 676 ครั้ง
ผู้เสียชีวิตสะสม 6 วัน (29 ธ.ค.65 - 3 ม.ค.66) จำนวน 282 ราย ลดลง 9.62% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลงจำนวน 30 ราย และลดลง 16.07% กว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 54 ราย
ส่วนผู้บาดเจ็บสะสม 6 วัน (29 ธ.ค.65 - 3 ม.ค.66) จำนวน 2,197 คน ลดลง 11.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือลดลง จำนวน 273 คน และลดลง 23.90% กว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 691 คน (-23.93 %)
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้บังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก รวม 6 วัน 441,288 ราย มากขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลังถึง 88.26% โดยข้อหาสำคัญ ได้แก่ เมาแล้วขับ 20,040 ราย ขับรถเร็วเกินกำหนด 168,454 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 87,191 ราย ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย 24,612 ราย
โดยจำนวนอุบัติเหตุสะสมสูงสุดในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช 76 ครั้ง เสียชีวิตสูงสุดในพื้นที่ จ.เชียงราย 13 ราย โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 37.71% และมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ สูงสุดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย 60.59%
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า ผลการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในภาพรวมทั้งประเทศ ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังอยู่ในเกณฑ์ค่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด ซึ่ง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีความพอใจต่อผลการอำนวยการจราจรที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปีนี้แม้จะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนามากกว่าปีก่อนๆ ส่งผลให้ปริมาณรถมีจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยก็ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ดูแลและจัดการจราจร อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี และมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ ปฏิบัติตามแนวทางข้อสั่งการของ ผบ.ตร.โดยเคร่งครัด และให้ทุกหน่วยยังคงความเข้มในทุกมาตรการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนในวันสุดท้ายของช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น แม้การจราจรส่วนใหญ่ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงเหลือประชาชนจำนวนหนึ่งที่ยังอยู่ระหว่างการเดินทางกลับ กทม. โดยเฉพาะถนนบนสายเอเชียและสายมิตรภาพ ให้เน้นการจัดชุดเคลื่อนที่เร็วไว้แก้ไขปัญหา หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นให้เร่งรัดตรวจสอบ ทำการแยกรถ และเคลื่อนย้ายรถ มิให้เกิดปัญหารถติดสะสม และเร่งรัดตรวจสอบสมรรถนะรถตู้ รถบัส รถโดยสารที่มีประชาชนโดยสารจำนวนมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยให้ความสำคัญในการป้องกันและลดอุบัติเหตุ มิใช่เฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่ให้ดำเนินการตามมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความผิดตามมาตรการ 10 ข้อหาหลัก และเน้นในข้อหาขับขี่รถไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ซึ่งเป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด อีกทั้งขอให้ทุกหน่วยถอดบทเรียนการปฏิบัติ ทั้งในส่วนที่ปฏิบัติได้ดีอยู่แล้ว ให้ปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนที่ยังมีปัญหาข้อบกพร่องให้หาทางแก้ไข เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติภารกิจในช่วงวันหยุดยาว หรือเทศกาลสงกรานต์ 2566 ต่อไป