พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน สำนวนคดีนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว กับพวก เดินทางไปส่งสำนวนคดี "ตู้ห่าว" ให้อัยการสูงสุด คดีนี้เป็นความผิดที่เกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้กับตนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบร่วมกันทำการสอบสวนกับพนักงานสอบสวนในสังกัด 4 กองบัญชาการประกอบด้วย บช.น., บช.ก., บช.สอท., บช.ปส. และร่วมกับพนักงานอัยการทำการสอบสวนคดีนี้
ขณะนี้การสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว ทางคดีมีการสอบสวนพยานบุคคล 444 ปาก สืบพยานล่วงหน้า 20 ปาก ตรวจยึดทรัพย์สิน 5,345 ล้านบาท มีพยานเอกสาร พยานนิติวิทยาศาสตร์ และอื่นๆกว่า 67 แฟ้ม จำนวน 26,892 แผ่น สอบสวนผู้ต้องหา ทั้งหมด 43 คน แบ่งเป็นบุคคลธรรมดา 38 คน นิติบุคคล 5 ราย ในส่วนของบุคคลธรรมดา 38 คน จับกุมดำเนินคดีแล้ว 20 คน ยังหลบหนี 18 คน ได้สั่งการให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ส่วนผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคลอีกจำนวน 5 บริษัทแจ้งข้อหาดำเนินคดีแล้วเช่นกัน
คดีนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 26 ต.ค.65 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำกำลังเข้าตรวจค้นผับจินหลิง พบและยึดยาเสพติด พร้อมอุปกรณ์การเสพหลายรายการเป็นของกลางพร้อมจับกุมตัวผู้ต้องหาที่มั่วสุมเสพยา และจำหน่ายยาเสพติด นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาศาลได้ออกหมายจับนายตู้ห่าวกับพวก ในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและสมคบ และแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งขยายผลสืบสวนจับกุมบุคคลผู้เกี่ยวข้อง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับสั่งการเน้นย้ำให้ดำเนินคดีตรงไปตรงไป ตามพยานหลักฐานอย่างเด็ดขาดกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดของกลุ่มเครือข่ายทุนจีนสีเทา "วันนี้ในฐานะพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ พร้อมคณะพนักงานสอบสวนได้นำสำนวนการสอบสวนมาส่งมอบให้พนักงานอัยการเพื่อพิจารณาต่อไป มั่นใจสำนวนแน่นหนาครบถ้วน เพียงพอในการสั่งฟ้องลงโทษผู้ต้องหาได้ ขอขอบคุณคณะพนักงานอัยการ ที่ร่วมทำการสอบสวนคดีนี้ ขอบคุณ ปปส. ปปง. ที่ร่วมสืบสวนและสนับสนันข้อมูล รวมทั้งคุณชูวิทย์ ที่คอยสนับสนุนข้อมูล ทำให้คดีนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว