น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลดิจิทัลตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีนโยบายให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์ใช้สำหรับบริการ รวมถึงการปรับปรุงระบบการติดต่ออนุญาตต่างๆ ให้อยู่ในรูปบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) เพื่ออำนวยความสะดวกลดค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ
ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้รวบรวมระบบบริการ e-Service ที่ส่วนราชการและหน่วยงานรัฐได้พัฒนาขึ้นในช่วงที่ผ่านมาไว้ที่เดียวกันรวม 725 งานบริการ ครอบคลุมงานบริการ 3 ด้านหลัก ซึ่งรัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนและผู้ประกอบการเลือกใช้บริการได้เพียงคลิ๊กเข้าไปที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ.ร.ที่ลิงค์ http://bit.ly/3veQn5L หรือสแกนคิวอาร์โค้ด แล้วเลือกใช้บริการได้ตามความต้องการ
สำหรับ e-Service ภาครัฐทั้ง 725 งานบริการ แยกเป็นบริการ 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย
ด้านที่ 1 งานบริการเพื่อประชาชน รวม 82 บริการ แยกเป็นงานบริการย่อยอีก 8 ด้าน ได้แก่ 1)ด้านสวัสดิการภาครัฐและการขอความช่วยเหลือ 10 งานบริการ 2) ด้านการขนส่ง คมนาคม และการเดินทาง 13 งานบริการ 3)ด้านที่ดิน ภาษี และธนาคาร 10 งานบริการ 4)ด้านสาธารณูปโภคและการขอใช้ที่สาธารณประโยชน์ 11 งานบริการ 5)ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อม 15 งานบริการ 6)ด้านการสอบ การศึกษา 4 งานบริการ 7)ด้านทะเบียนราษฎรและตรวจสอบข้อมูล 16 งานบริการ และ 8)ด้านสุขภาพ 3 งานบริการ
ด้านที่ 2 บริการด้านแรงงานหรือส่งเสริมการมีงานทำรวม 98 งานบริการ แยกเป็นงานบริการย่อย 4 ด้าน ได้แก่ 1) บริการด้านประกันสังคม 12 งานบริการ 2) ด้านการส่งเสริมอาชีพ และการฝึกอบรม 15 งานบริการ 3) บริการด้านการขึ้นทะเบียนและการขอใบประกอบวิชาชีพ 39 งานบริการ และ 4)ด้านการสอบ การศึกษา 32 งานบริการ
ด้านที่ 3 งานบริการผู้ประกอบธุรกิจ/SMEs รวม 545 งานบริการ แยกเป็นงานบริการย่อย 6 ด้าน ได้แก่ 1)ด้านการขออนุญาตและจดทะเบียน 248 งานบริการ 2)ด้านการขออนุญาตเกี่ยวกับวัตถุอันตราย 68 งานบริการ 3)งานบริการด้านสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้า 9 งานบริการ 4)ด้านการเงิน ภาษี และสิทธิประโยชน์ 82 งานบริการ 5)บริการด้านการส่งออก-นำเข้า 86 งานบริการ และ 6)ด้านการรับรองมาตรฐานและตรวจสอบข้อมูล 52 งานบริการ