พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) โดยระบุว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชน โดยได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และมีความก้าวหน้าโดยลำดับ รวมไปถึงการดูแลประชาชนทุกกลุ่ม ผ่านมาตรการและโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย รวมทั้งการแก้ไขปัญหาที่ทับซ้อนทั้งในส่วนของรัฐต่อรัฐ และรัฐกับประชาชน ผ่านกลไกคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอให้ดำเนินการต่อเนื่องให้ปัญหาได้รับการแก้ไขเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงให้ความสำคัญในการเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อร้องเรียนของประชาชนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำถึงการดำเนินงานต่าง ๆ และการใช้จ่ายงบประมาณต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังรอบคอบ ถูกต้องตามกฎ ระเบียบ และกฎหมาย โดยคำนึงให้เกิดความคุ้มค่า และประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน และประเทศชาติ โดยเฉพาะสิ่งสำคัญในการจัดที่ดินทำกินให้กับประชาชน ต้องเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ไร้ที่ทำกินอย่างแท้จริง โดยดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส ประชาชนยอมรับได้
รวมทั้งขอให้มีการสร้างความเข้าใจกับประชาชน ในการไม่ไปทำเกษตรและปลูกพืชต่าง ๆ ในพื้นที่ที่ไม่ถูกฎกหมาย แต่ต้องดำเนินการในพื้นที่ที่ถูกกฎหมาย ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดการกีดกันทางการค้าจากต่างประเทศในการส่งออกผลผลิต และผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร
โดยที่ประชุมฯ เห็นชอบต่อผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ สระแก้ว สุรินทร์ อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ และเลย (ยกเว้นกรณีแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) และมอบหมายให้ สคทช. นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อโปรดพิจารณาต่อไป
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.นครราชสีมา และ จ.ปราจีนบุรี (กรณีเร่งด่วน) โดยเห็นชอบต่อผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กรณีอุทยานแห่งชาติทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน และให้ สคทช. นำเรื่องเสนอ ครม. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง และมาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน รับเรื่องไปพิจารณา กรณีพื้นที่นอกแนวเขตที่กรมป่าไม้ส่งมอบให้ ส.ป.ก. (แต่อยู่ภายในเขตเส้นปรับปรุงปี พ.ศ. 2543) ว่าควรใช้แนวทางการดำเนินการที่เหมาะสมอย่างไร และนำเรื่องเสนอ คทช. พิจารณา หากผลเป็นอย่างไรให้เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป แล้วให้แจ้งไปยังคณะอนุกรรมการ One Map ทราบและพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะเดียวกันที่ประชุมฯ รับทราบผลการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ซึ่งมีความก้าวหน้าเป็นลำดับ ดังนี้
1.กำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว 1,491 พื้นที่ 70 จังหวัด 5,792,145 ไร่
2.มีการออกหนังสืออนุญาตแล้ว 419 พื้นที่ 1,559,549 ไร่
3.จัดคนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว 78,109 ราย 96,536 แปลง
4.ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพแล้วใน 231 พื้นที่ 65 จังหวัด
นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังเห็นชอบการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกรณีป่าสงวนแห่งชาติ ป่าพระแท่นดงรัง ในพื้นที่ ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ทับซ้อนกับวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร โดยให้กรมป่าไม้ เพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติป่าพระแท่นดงรัง (บางส่วน) เนื้อที่ประมาณ 193 ไร่ เพื่อให้เป็นอาณาเขตของวัดพระแท่นดงรังฯ และเป็นที่ธรณีสงฆ์ และมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ พิจารณาดำเนินการต่อไป