น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องด้วยขณะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเริ่มจากวันนี้ ที่เป็นวันจ่ายต่อเนื่องด้วยวันไหว้และวันเที่ยวในวันที่ 21-22 ม.ค. ตามลำดับ ซึ่งในช่วงเวลานี้ชาวไทยเชื้อสายจีนจะประกอบพิธีต่างๆ ตามประเพณีที่อาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ อาทิ การจุดธูป เทียน เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง หรือการจุดประทัด
ดังนั้น จึงขอให้ประกอบพิธีกรรมต่างๆ ด้วยความระมัดระวัง ประกอบกับระยะนี้ยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว ที่อากาศแห้งที่เอื้อให้วัสดุต่างๆ ติดไฟง่าย จึงขอให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางป้องกันเพลิงไหม้โดยเคร่งครัด อาทิ การจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การไหว้เจ้า การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ต้องมีภาชนะที่ไม่ติดไฟและแข็งแรงรองรับ การจุดประทัดต้องจุดในที่โล่ง การเผากระดาษเงิน กระดาษทอง ต้องอยู่ในลักษณะที่ไฟดับสนิทแล้ว ก่อนเข้านอนหรือออกนอกเคหสถาน
ขณะเดียวกัน ต้องมีการตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟ รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หากชำรุดต้องซ่อมทันที ควรปิดสวิตซ์และดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน ปิดวาล์วแก๊สและถังแก๊สให้เรียบร้อย หลังจากประกอบอาหารเสร็จแล้ว จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัยหรือเครื่องดับพลิงไว้ประจำบ้าน ศึกษาวิธีการใช้และถ่ายทอดให้ผู้พักอาศัยใช้อุปกรณ์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงต้องตรวจสอบและบำรุงรักษาให้พร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน สถานประกอบการบางแห่งอาจหยุดทำการติดต่อกันหลายวัน ขอให้มีการตรวจสอบอุปกรณ์ หรือระบบป้องกันอัคคีภัย เช่น เครื่องดับเพลิงยกหิ้ว และสัญญาณเตือนภัย ให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน รวมทั้งกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราดูแลอาคารสถานที่ ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เมื่อพบเห็นการเกิดเพลิงไหม้ให้แจ้งสายด่วน 199 ทันที โดยหากประชาชนอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ กรณีที่เกิดไฟลุกลาม ให้รีบออกจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัยในชีวิต