กรุงเทพโพลล์ เผยประชาชนกลุ่มตัวอย่าง 55.8% เห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคต เพิ่มขึ้น 0.1% จากการสำรวจครั้งก่อนเมื่อช่วงเดือน ก.ย.65 กลุ่มตัวอย่าง 52.7% มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจในอนาคตข้างหน้า ลดลง 3.9% จากการสำรวจครั้งก่อน กลุ่มตัวอย่าง 50.6% เห็นว่าตนเองมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้น 0.2% จากการสำรวจครั้งก่อน ส่วนกลุ่มตัวอย่าง 63.4% ที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว ลดลง 5.4% จากการสำรวจครั้งก่อน
สาเหตุสำคัญที่ประชาชนยังไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง ส่วนใหญ่ 50.1% คือ ไม่มีเงินทุนมากพอ รองลงมา 47.5% คือ ปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบัน ค่าครองชีพสูง, 40.7% น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น, 39.8% กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน และ 35.7% คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่าง 63.9% อยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในปีกระต่ายทองค่อนข้างมากถึงมากที่สุด หลังจากสถานการณ์โควิดหมดไป การท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง ส่วนอีก 36.1% อยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
ทั้งนี้ กรุงเทพโพลล์ ร่วมกับ คณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความเห็นประชาชนเรื่องคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจในปีกระต่ายทอง (ครั้งที่ 5) โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศจำนวน 1,156 คน แล้วนำมาเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ 4 เมื่อช่วงเดือน ก.ย.65