นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ค่าฝุ่นสูงขึ้นในระดับสีแดง มากกว่า 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร 14 พื้นที่ เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ส่งผลให้ฝุ่นเกิดการสะสมตัวมากขึ้น และจากการคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นจะมีค่าสูงต่อเนื่องในช่วงวันที่ 2-4 ก.พ. 66
ขณะที่ล่าสุด เช้านี้เมื่อเวลา 07.00 น. ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร รายงานการตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ 71-121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐาน จำนวน 70 พื้นที่
ดังนั้น ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ การแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง PM 2.5 และการหารือร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรุงเทพมหานครพิจารณาแล้ว จึงดำเนินการตามมาตรการดังนี้
- หน่วยงาน กทม. WFH ยกเว้นส่วนที่ให้บริการประชาชน (บุคลากร กทม. ที่ปฏิบัติงานกลางแจ้ง ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา)
- ประสานกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อขอความร่วมมือหน่วยงานราชการในพื้นที่ให้ WFH
- ให้ผู้อำนวยการเขตประสานกับเอกชนในพื้นที่ โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ให้ความร่วมมือในการ WFH และสรุปรายงานผลความร่วมมือ ภายในวันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
- ศูนย์บริการสาธารณะสุข ทั้ง 69 ศูนย์ และ อสส. ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แจกหน้ากากอนามัย ให้คำแนะนำ และเฝ้าระวังอาการ
- ขอความร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย และลดกิจกรรมภายนอกอาคาร
- หากมีอาการให้ปรึกษาคลินิกมลพิษทางอากาศ ของกทม. ทั้ง 5 แห่ง คือ รพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รพ.ตากสิน รพ.สิรินธร รพ.ราชพิพัฒน์ และ รพ.กลาง โดยเปิดทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2 - 4 กุมภาพันธ์ 08.00-15.00 น. สามารถสอบถาม 1646 สายด่วนสุขภาพ
กรุงเทพมหานคร (กทม.) ไม่ได้สั่งปิดโรงเรียนทั้งหมด เนื่องจากเห็นว่าครูและบุคลากรในโรงเรียน กทม. ได้เตรียมพร้อมอุปกรณ์ต่าง ๆ และสามารถช่วยดูแลเด็กได้โดยไม่เป็นภาระกับผู้ปกครอง ตามมาตรการดังต่อไปนี้
- ให้นักเรียนสวมหน้ากากตลอดเวลา (นอกอาคารสวมหน้ากาก 2 ชั้น และ 1 ชั้นในอาคาร)
- ห้ามทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด
- อยู่บ้านแบบสมัครใจได้ หากที่บ้านมีพื้นที่ปลอดฝุ่น
- ทำความสะอาดโรงเรียนเพื่อลดฝุ่น
- ควบคุมการเกิดฝุ่นละอองในสถานที่ก่อสร้างที่อยู่ในกำกับของ กทม. ทุกแห่งอย่างเคร่งครัด
- ตรวจสอบและขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างเอกชน ให้ควบคุมฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้าง และการขนส่งอย่างเคร่งครัด
- กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ โดยให้ผู้อำนวยการเขตทุกเขต ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ งดการเผาในที่โล่ง เช่น การเผาหญ้า การเผาขยะ
- ประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล กวดขันการจอดรถในที่ห้ามจอดบนถนนสายหลักและสายรองตลอดเวลา และการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
- ขอความร่วมมือประชาชนใช้บริการรถขนส่งมวลชน
- กวดขันไม่ให้รถเครื่องยนต์ดีเซลที่มีค่าไอเสียเกินมาตรฐานมาวิ่งบนท้องถนน