นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ประชุมแก้ปัญหาการจราจร โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฏร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) สัญญาช่วงที่ 1 งานออกแบบ-ก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน-หอสมุดแห่งชาติ ช่วงที่ 2 งานออกแบบ-ก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงเตาปูน-ผ่านฟ้า และช่วงที่ 3 งานออกแบบ-ก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งและสถานีใต้ดิน ช่วงผ่านฟ้า-สะพานพุทธ ซึ่งทั้ง 3 สัญญา อยู่ในพื้นที่เขตพระนคร ดุสิต และบางซื่อ
โดยที่ประชุม ได้รายงานภาพรวมแผนการดำเนินการของโครงการ ซึ่งพื้นที่สัญญาช่วงที่ 1 และ 2 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนสัญญาช่วงที่ 3 อยู่ระหว่างการเวนคืนพื้นที่ แผนการปิดเบี่ยงการจราจรในเส้นทางโครงการก่อสร้าง รวมถึงการประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อให้ประชาชนสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทาง และบริหารจัดการการเดินทางล่วงหน้าได้ ซึ่งประกอบด้วย
- การติดตั้งป้ายบริเวณสะพานลอยล่วงหน้า 30 วัน
- การติดป้ายบริเวณทางเท้าล่วงหน้า 7-10 วัน
- การแจ้งตำแหน่งป้ายยกเลิกที่หยุดรถประจำทาง การประชาสัมพันธ์ผ่านใบปลิวล่วงหน้า 3-5 วัน
- การประชาสัมพันธ์ในสถานศึกษาในพื้นที่ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน และสื่อออนไลน์ต่างๆ
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ที่ผ่านมา พบว่าโครงการก่อสร้างหลายแห่ง มีการกั้นแบริเออร์และปิดการจราจรเกินความจำเป็น โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนเป็นคอขวด ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้โดยสะดวก และติดขัดสะสมในช่วงเวลาเร่งด่วนปริมาณมาก เช่น บริเวณย่านบางกะปิ ซึ่งได้สั่งการให้รื้อออกบางส่วน และพบว่าทำให้การจราจรดีขึ้น โดยได้รับความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจากผู้รับจ้างเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ กทม. ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากผ่านระบบ Traffy Fondue ว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมหา Solution ในการแก้ปัญหาในวันนี้ ซึ่งไม่ใช่ Solution ชั่วคราว แต่จะเป็นการแก้ปัญหาแบบถาวร เนื่องจากการก่อสร้างนี้จะใช้เวลานาน
นายวิศณุ ได้ให้คำแนะนำแก่หน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหา ประกอบด้วย การประสานกับ Google Map เพื่อแจ้งพิกัดที่มีการก่อสร้างเพื่อให้ประชาชนสามารถหลีกลี่ยงและวางแผนการเดินทางได้, การปรับสัญญาณไฟเดินข้าม จากสีแดงเป็นการกระพริบ เนื่องจากปกติแล้วพื้นที่ก่อสร้างรถติดขัด การกระพริบจะเป็นการเตือนให้ผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง และประชาชนสามารถข้ามได้, การจัดบริการรถ Feeder เพื่อรับ-ส่งนักเรียนในพื้นที่กับจุดจอดรับส่งระยะไกล ซึ่งอยู่นอกพื้นที่ ในช่วงเวลาเร่งด่วน เช้า-เย็น, การหาอาคารจอดรถ เพื่อให้บริการประชาชนที่พักอาศัยในบริเวณที่มีการปิดการจราจร และไม่สามารถนำรถกลับไปจอดบริเวณที่พักอาศัยของตนเองได้
ด้าน นายสุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามปัญหา พบว่าบริเวณแยกบางขุนพรหมต่อเนื่องถึงบางลำภู ขณะนี้มีปัญหาการจราจรติดขัดสะสม และเมื่อมีรถปริมาณมาก ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษตามมา ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่มีสถานที่สำคัญ หน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาล และโรงเรียนหลายแห่ง รวมทั้งยังมีชุมชนในพื้นที่ ซึ่งร้องเรียนว่าได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องฃ
ดังนั้น การบูรณาการการแก้ไขในครั้งนี้ จะสามารถบรรเทาปัญหาการจราจรในช่วงเวลานี้ได้จนถึงปิดเทอม ซึ่งการจัดการจราจรในซอยเบี่ยง การคืนผิวการจราจราจรเป็นเรื่องสำคัญ และได้ให้คำแนะนำผู้รับจ้างและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นต่างๆ อาทิ ให้เร่งระยะเวลาการทำงานให้เร็วขึ้น เพื่อลดปัญหาเรื่องเสียงและฝุ่น การดำเนินการป้องกันฝุ่นโดยปิดกั้นพื้นที่ก่อสร้าง การจัดทีมเชิงรุกลงพื้นที่ เพื่อชี้แจงแผนการทำงานและรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ การประชาสัมพันธ์ช่องทางการร้องเรียนเป็นการเฉพาะเพื่อลดภาระของ Traffy Fondue
รวมถึงมอบหมายให้ รฟม.พิจารณาหารถ Feeder และสำนักงานเขตพื้นที่ประสานกับสำนักการจราจรและขนส่งและสถานศึกษาในพื้นที่เพื่อหาจุดจอดรับ-ส่งที่เหมาะสม การจัดทำทางเดินข้ามโดยใช้สัญญานไฟกระพริบโดยให้ทดลองดำเนินการ 1 เดือน และประเมินผล
"มาตรการที่ดำเนินการทั้งหมด จะใช้ตัวชี้วัดจากTraffy Fondue กำหนด หากพบว่าเรื่องร้องเรียนมีจำนวนน้อยลงหมายถึงหน่วยงานแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งจะมีการประเมินผลในภาพรวมอีก 3 เดือน จากนั้นจะประชุมเพื่อหารือแนวทางอีกครั้งหนึ่ง" รองปลัด กทม. ระบุ