นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน นำคณะผู้บริหารจากสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ และสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อขอบคุณที่สนับสนุนมาตรการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่มาตรการของรัฐบาลเห็นผลสำเร็จและเป็นรูปธรรม ซึ่งมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย (Incentive Measure) เป็นมาตรการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และดำเนินการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ทั้งในด้านเป็นสถานที่ถ่ายทำที่มีความหลากหลาย รวมถึงบุคลากรในประเทศที่มีคุณภาพ และเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดการจ้างงาน รวมถึงช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของประเทศ
นายกรัฐมนตรี พร้อมให้การสนับสนุนในส่วนที่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ โดยมาตรการที่รัฐบาลดำเนินการไปแล้วนั้น ถือเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ ซึ่งรัฐบาลคำนึงแล้วว่าจะช่วยสร้างรายได้กลับคืนสู่ประเทศ ชุมชน และประชาชนท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีขอให้ผู้ประกอบการฯ ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อมของไทยไม่ให้เสียหาย ฟื้นฟูภายหลังถ่ายทำ รวมถึงดูแลเรื่องภาพลักษณ์ ให้การถ่ายทำสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดี และชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์ต่อยอดสู่ภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนต่อไป
ด้านนายกุลเทพ นฤหล้า นายกสมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลที่สนับสนุนมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการดำเนินการปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่กองถ่ายต่างประเทศ การอนุมัติงบประมาณกลาง การปรับอัตราการคืนเงินเป็น 20-30% เป็นระยะเวลา 2 ปี และการปรับเพดานการคืนเงิน ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจการประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย เชื่อมั่นว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดและจูงใจให้เกิดการลงทุนสร้างภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยมากขึ้น รวมถึงจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยซึ่งเชื่อมโยงกันอยู่ด้วย
โดยทั้งสองฝ่าย เห็นพ้องว่า ไทยถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการถ่ายทำภาพยนตร์ของต่างประเทศที่มีศักยภาพ มีภาพยนตร์ดังที่มาถ่ายทำในไทยหลายเรื่อง สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมหาศาล และมีรูปแบบที่ดี เป็นต้นแบบให้กับหลายๆ ประเทศ
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันสถานการณ์การแข่งขันในตลาดโลกสูงขึ้น ซึ่งสมาคมฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนมาตรการต่างๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร และการปรับปรุงกฎหมายลูกต่างๆ เพื่อส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทยให้เติบโตสู่ตลาดสากล