ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาให้ระงับการก่อสร้างโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเอาไว้ก่อนจนกว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการดังกล่าว ได้รับอนุญาตจากรมเจ้าท่าให้ก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ และได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากรให้ปลูกสร้างอาคารภายในบริเวณโบราณสถาน
คดีนี้เครือข่ายวางแผนและผังเมืองเพื่อสังคม กับพวกรวม 12 ราย ได้ยื่นฟ้องคณะรัฐมนตรี, คณะกรรมการอำนวยการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา, กระทรวงมหาดไทย และ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ต่อศาลปกครองกลาง เนื่องจากเห็นว่าการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายหลายเรื่อง เช่น ไม่มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นหรือการมีส่วนร่วมของประชาชน, ไม่มีการศึกษาและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) , ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และประมวลกฎหมายที่ดิน, ขัดต่อกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม, ขัดต่อ พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย, ที่ปรึกษาโครงการฯ เป็นผู้ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ, ขัดต่อพ.ร.บ.โบราณสถานฯ
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการพัฒนาพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าถึงสะพานพระราม 7 ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร มูลค่าราว 1.4 หมื่นล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือน โดยมี 12 แผนงาน 238 โครงการ ได้แก่ ทางเดิมริมแม่น้ำ, การปรับปรุงภูมิทัศน์เขื่อน, พัฒนาท่าเรือ, พัฒนาศาลาท่าน้ำ, พัฒนาพื้นที่บริการสาธารณะ, พัฒนาเส้นทางการเข้าถึงพื้นที่, ปรับปรุงพื้นที่แนวคูคลองประวัติศาสตร์, พัฒนาพื้นที่ชุมชน, พัฒนาพื้นที่ศาสนสถาน, พัฒนาพื้นที่นันทนาการและสวนสาธารณะริมแม่น้ำ, พัฒนาจุดหมายตาริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ พัฒนาสะพานคนเดิน