รมช.พาณิชย์ ปัดปกปิดถือหุ้นในบริษัทเอกชนเกิน 5% แจงปิดกิจการมานานแล้ว

ข่าวทั่วไป Friday April 18, 2008 15:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ แจงเหตุที่ไม่ได้แจ้งการถือหุ้นเกิน 5% ในบริษัท ทรัพย์วัฒนา จำกัด ให้แก่คณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ว่า เป็นเพราะบริษัทดังกล่าวได้เลิกกิจการมาตั้งแต่ปี 46 ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนในงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้แสดงไว้
รมช.พาณิชย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนได้เคยสอบถามไปยัง ป.ป.ช.แล้วว่าการถือหุ้นในบริษัททรัพย์วัฒนา ซึ่งไม่ได้ประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 46 แต่ที่ยังมีชื่อถือหุ้นอยู่เพราะอยู่ขั้นตอนของการแจ้งเลิกบริษัทนั้น จำเป็นต้องแจ้งต่อป.ป.ช.หรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจนกระทั่งมีข่าวว่ามีหุ้นในบริษัทเกิน 5% และไม่ได้แจ้งให้ป.ป.ช. รับทราบ
"ไม่ได้ปกปิดอะไร เคยถาม ป.ป.ช.ไปแล้วแต่ยังไม่ตอบมา จนมาเป็นข่าวว่าผมถือหุ้นเกิน 5% แล้วไม่แจ้งป.ป.ช. ส่วนป.ป.ช.จะชี้ยังไง ผมตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้ก็ยังทำงานตามปกติ ไม่ลาออก เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด จากนี้จะชี้แจงต่อป.ป.ช. พร้อมทั้งส่งเอกสารหลักฐานไปให้ดัวย และกรณีนี้ไม่เหมือนคุณไชยา(สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข) เพราะเป็นเรื่องของภรรยาแต่นี่มันตัวผม" นายวิรุฬ กล่าว
นายวิรุฬ กล่าวว่า บริษัท ทรัพย์วัฒนา ได้หยุดประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 46 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนในงบการเงินที่ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตได้แสดงไว้ และเมื่อ 16 ส.ค.49 ศาลล้มละลายกลางมีคำพิพากษาให้บริษัท นพกิจรวมทุน จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ทรัพย์วัฒนา ล้มละลายและพ้นสภาพการเป็นนิติบุคคล ส่งผลให้บริษัท ทรัพย์วัฒนา เหลือผู้ถือหุ้นเพียง 6 คน
จากนั้นบริษัทได้ดำเนินการหาผู้ถือหุ้นใหม่ แต่ไม่สามารถหาได้เพราะบริษัทขาดทุนสะสมมากกว่า 3 เท่าของเงินลงทุน โดย ณ วันที่ 31 ธ.ค.49 ขาดทุนสะสมกว่า 84 ล้านบาท ดังนั้นที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.50 ได้มีมติให้เลิกบริษัท เพราะหยุดกิจการมาเกินกว่า 1 ปี และมีผู้ถือหุ้นไม่ครบตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเท่ากับว่าบริษัทได้ปิดกิจการถาวร แต่กระบวนการตามกฎหมายในเรื่องของเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ยังต้องทำต่อ เพราะยังมีหนี้ที่ต้องชำระ
"ในทางพฤตินัยถือว่าบริษัทนี้จบไปแล้ว เหลือแต่ทางนิตินัยที่ต้องใช้เวลาดำเนินการให้จบ ส่วนข้อสงสัยว่าทำไมยังยื่นงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาโดยตลอด เพราะกฎหมายกำหนดให้ต้องยื่นถ้าไม่ยื่นก็ผิด" นายวิรุฬ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ