นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รับทราบ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กรณีเรือ FSO BENCHAMAS 2 ของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด น้ำทะเลเข้าตัวเรือ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา พร้อมได้สั่งการให้นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน รอบคอบ รัดกุม ไม่ให้เกิดผลกระทบลุกลาม
สำหรับเรือกักเก็บปิโตรเลียม "เบญจมาศ 2 หรือ เรือ FSO BENCHAMAS 2" เป็นเรือเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ ที่บริษัทฯ เช่ามา มีกำลังพล 29 นาย และน้ำมันดิบประมาณ 400,000 บาเรล โดยขณะทำการปิดผนึกท่อทางดูดน้ำทะเลด้วยลูกอุดลม และถอดวาล์ว เพื่อบำรุงรักษาตามปกติบริเวณห้องเครื่องจักรใหญ่ใต้แนวน้ำ ลูกอุดลมดังกล่าวเกิดระเบิด ทำให้น้ำทะเลเข้าตัวเรือ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย ตำบลที่เรืออยู่ในแบริ่ง 171 ระยะ 129 ไมล์ จากปลายแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ประสานขอรับการสนับสนุน และความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ เพื่อดำเนินการปิดผนึกท่อทางดูดน้ำทะเลและกู้ร่างผู้เสียชีวิต โดยวันที่ 15 มี.ค. กำลังพลของกองทัพเรือ ได้ออกเดินทางเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ และคาดว่าจะถึงในเวลา 06.00 น. ของวันนี้
นายอนุชา กล่าวว่า ทีมปฏิบัติการช่วยเหลือได้เตรียมแผนการปฏิบัติตาม Scenario จากเบาไปหาหนัก ได้แก่ 1. อุดเรือได้สำเร็จน้ำไม่เข้าเรือเพิ่ม 2. มีน้ำเข้าเรือเพิ่มเติม และ 3. ตรวจพบน้ำมันรั่วไหล
ทั้งนี้ เมื่อเดินทางถึง จะดำเนินการสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ และจะเข้าปฏิบัติ เมื่อประเมินแล้วมีความปลอดภัย ซึ่งจากรายงานสถานภาพเรือเมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (15 มี.ค.) ตัวเรือมีความปลอดภัยสถานะคงที่ ลูกเรือบนเรือปลอดภัย น้ำมันดิบในเรือไม่มีการรั่วไหล และสภาพอากาศปกติ
"นายกฯ แสดงความเสียใจต่อการสูญเสีย และกำชับให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้นายกฯ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ตัวเรือมีความปลอดภัย และไม่มีน้ำมันดิบในเรือรั่วไหล และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการด้วยความรัดกุม ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และสิ่งแวดล้อมทางทะเลชายฝั่ง พร้อมย้ำ รัฐบาลต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ทุกส่วนเพื่อให้ความช่วยเหลือ ดูแลประชาชนในทุกสถานการณ์" นายอนุชา กล่าว