น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ซึ่งได้พิจารณาเรื่องสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับการจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดินของประเทศ เพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรมีที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน
โดยตั้งแต่ปี 58-65 สามารถจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนทั่วประเทศพื้นที่เป้าหมาย 1,491 พื้นที่ ใน 70 จังหวัด พื้นที่รวม 5.79 ล้านไร่ ใน 9 ประเภทที่ดิน เช่น ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร และป่าชายเลน โดยได้จัดคนเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินแล้ว 78,109 ราย ในพื้นที่ 96,536 แปลง เนื้อที่ 5.29 แสนไร่ ใน 354 พื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีความคืบหน้าการดำเนินงานภายใต้แผนปฏิรูปประเทศในด้านการสร้างมูลค่าที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ได้มีแนวทางดำเนินการในด้านต่างๆ เช่น การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบในการจัดที่ดินเพื่อลดข้อจำกัดในการใช้ประโยชน์ที่ดิน, กำหนดแนวทางการประเมินมูลค่าที่ดินและทรัพย์สินที่รัฐจัดให้ประชาชน, การให้มีระบบสถาบันการเงินให้สินเชื่อระยะกลางและระยะยาว ให้แก่ประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินของรัฐ มีระบบประกันความเสี่ยงในการอำนวยสินเชื่อ เป็นต้น
ที่ประชุม ครม.ยังได้รับทราบถึงกรณีที่ คทช.ได้เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงที่แนวเขตที่ดินของรัฐ แบบบูรณาการมาตราส่วน 1:4000 (one map) ในพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด รวมถึงการแก้ไขปัญหากรณีประชาชนได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐฯ ดังกล่าว, การแก้ไขปัญหากรณีพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา และปราจีนบุรี ตลอดจนกรณีข้อพิพาทกรณีป่าสงวนแห่งชาติป่าพระแท่นดงรัง ในพื้นที่ ต.พระแทน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
รวมทั้งติตดามการแก้ไขปัญหากลุ่มประชาชนร้องขอที่ดินทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี โดย คทช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบที่ดินของรัฐ พิจารณานำเสนอที่ดินของรัฐแปลงว่างที่หมดอายุสัมปทาน และไม่มีแผนการดำเนินงานในพื้นที่เสนอเป็นพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนต่อไป