พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ตั้งแต่ 17 มี.ค. 66 และมีความร่วมมือจากธนาคารต่างๆ เป็นอย่างดี ในการแก้ปัญหาบัญชีม้า ทำให้สถิติการรับแจ้งความออนไลน์ ลดลงสัปดาห์ละประมาณ 700 ราย รวมทั้งมีประชาชนที่หลงผิดไปเข้าคิวปิดบัญชีม้า
"ขอเตือนว่า การที่ผู้ใดนำบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน ไปขอเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนำบัญชีไปให้บุคคลอื่น มีความผิด โดยจะอ้างไม่รู้ไม่ได้ ประชาชนที่หลงผิดไปรับจ้างเปิดบัญชีม้า ให้รีบไปปิดบัญชี เพื่อตัดช่องทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไม่ให้นำเงินคนไทยออกไปยังต่างประเทศ" ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าว
พร้อมกันนี้ ผบ.ตร.มีคำสั่งให้ตรวจสอบว่าในแต่ละสัปดาห์ รูปแบบการหลอกลวงทางออนไลน์เป็นลักษณะใด และมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เนื่องจากพบว่ามิจฉาชีพ มักใช้สถานการณ์ปัจจุบันมาหลอกลวงให้ตกเป็นเหยื่อ
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า คณะทำงานฯ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน ให้ช่วยเป็นกระบอกเสียงเผยแพร่กลโกงออนไลน์ในลักษณะต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รู้เท่าทัน เนื่องจากโจรออนไลน์มีการพัฒนาและปรับวิธีการหลอกลวงอย่างต่อเนื่อง เช่น การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงขอให้ประชาชนตรวจสอบให้มั่นใจก่อนโอนเงิน
ทั้งนี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากสถิติการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พบประชาชนตกเป็นเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 200,000 ราย มูลค่าความเสียหายเกือบ 4 หมื่นล้านบาท