พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) กล่าวถึงนโยบายการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในช่วงก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค.66 ว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยวางแผนเตรียมการปฎิบัติ
โดยในส่วนของตน ได้รับมอบหมายปฎิบัติภารกิจในศูนย์ป้องกันและปราบปรามมือปืนรับจ้างและผู้มีอิทธิพล ซึ่งมี พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นผู้อำนวยการศูนย์ ได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศเก็บรวบรวมข้อมูลมือปืนรับจ้าง และผู้มีอิทธิพล และได้มีการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
"ถ้าจุดใดมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ก็จะสั่งการให้กองบังคับการปราบปราม และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เข้าไปดำเนินการทันที โดยมีการเฝ้าระวังทุกพื้นที่" พล.ต.ท.สมพงษ์ ระบุ
ในการประชุมบริหารของสำนักงานตำรวจแห่งชาติครั้งที่แล้ว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เตรียมความพร้อมในทุกมิติ ให้มีแผนเผชิญเหตุ สืบสวนเก็บข้อมูลในท้องถิ่น และตั้งด่านปิดล้อมตรวจค้น นอกจากนี้ ยังมีการติดตามกวาดล้างจับกุมการซื้อขายอาวุธปืนออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า ความรุนแรงในช่วงเลือกตั้ง จากการไปใช้จ้างวานมือปืนรับจ้าง และซุ้มมือปืนต่างๆ เพื่อก่อเหตุกับคู่แข่งหรือหัวคะแนนฝ่ายตรงข้ามนั้น มีความแตกต่างจากในอดีต เนื่องจากมือปืนรับจ้างมีน้อยลง ปัจจุบันประชาชนให้ความร่วมมือมากขึ้น เพราะมีทั้งกล้องวงจรปิด กล้องจากโทรศัพท์มือถือ และกล้องติดหน้ารถ รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การก่อเหตุยากขึ้น และหากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับมือปืนรับจ้าง ขอให้แจ้งมา ตำรวจจะรีบดำเนินการทันที
ส่วนผู้ต้องขังที่เพิ่งพ้นโทษซึ่งอาจมาก่อเหตุในช่วงเลือกตั้งนั้น ตำรวจมีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมด โดยให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามดูพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ และเชื่อว่าจะไม่มีการก่อเหตุรุนแรงในลักษณะดังกล่าวในช่วงเลือกตั้งครั้งนี้อย่างแน่นอน