นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยภายหลังได้เชิญประชุมร่วมกันระหว่าง กรมธนารักษ์ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) หรือ อีสท์ วอเตอร์ และบริษัท วงศ์สยามก่อสร้าง จำกัด และนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 31 มี.ค.66 ได้มีการหารือถึงแนวทางการดำเนินการในช่วงเปลี่ยนผ่านคืนสินทรัพย์ของโครงการท่อส่งน้ำหนองปลาไหล-หนองค้อ และโครงการท่อส่งน้ำหนองค้อ-แหลมฉบัง (ระยะที่ 2) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 เม.ย.66 ตามเงื่อนไขของสัญญา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
ทั้งนี้ ทุกฝ่ายให้ความสำคัญกับการกำหนดแผนงานส่งมอบระบบสูบจ่ายของทั้ง 2 โครงการดังกล่าว เนื่องจากเป็นสถานีสูบจ่ายน้ำหลัก ในการสูบจ่ายไปยังพื้นที่ต่างๆ ตามแนวท่อที่สำคัญ เช่น แนวท่อหนองปลาไหล-มาบตาพุด-สัตหีบ โดยทั้ง 3 ฝ่าย คือ กรมธนารักษ์, อีสท์ วอเตอร์ และวงศ์สยามฯ ได้หารือร่วมกันเพื่อให้แผนงานส่งมอบทรัพย์สินดังกล่าว มีความชัดเจนและรอบคอบที่สุด
นายวีริศ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ทุกฝ่ายซักถามและชี้แจง ทำให้เกิดความชัดเจน และสร้างความสบายใจให้แก่ผู้ใช้น้ำในพื้นที่มากขึ้น ซึ่งในส่วนของอีสท์ วอเตอร์ อาจยื่นคำร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว เพื่อหารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ใช้น้ำ หรือเกิดผลกระทบให้น้อยที่สุด ในกรณีที่บริษัท วงศ์สยามฯ ไม่สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันที
ขณะที่วงศ์สยามฯ ได้เตรียมความพร้อมวางระบบสูบจ่ายน้ำคู่ขนานไปด้วยแล้ว โดยประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เพื่อขอใช้ไฟฟ้าชั่วคราวในสถานีสูบน้ำ และสามารถให้บริการสูบน้ำตามปกติ โดยไม่คิดค่าบริการแก่ลูกค้าในช่วงการเปลี่ยนผ่าน และได้หารือกับกรมชลประทาน เพื่อขอใบอนุญาตชั่วคราวแล้ว
ทั้งนี้ การประชุมฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจากนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งได้มีการซักถามเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้น้ำ ทั้งเรื่องสถานการณ์หลังจากวันที่ 11 เม.ย.66 เรื่องการใช้น้ำ และการใช้ไฟฟ้าบริเวณสถานีสูบน้ำในพื้นที่ทับซ้อน โดยในที่ประชุมได้ให้คำมั่นว่า การดำเนินการต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ และจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ใช้น้ำ รวมถึงผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ โดยทั้งวงศ์สยามฯ และอีสท์ วอเตอร์ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตนเองอย่างดีที่สุด
"กนอ.ยืนอยู่ข้างผู้ใช้น้ำ และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม สิ่งที่ กนอ.ปกป้อง คือผลประโยชน์ของผู้ใช้น้ำในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งจากการประชุมฯ เห็นได้ว่า ทั้ง 3 ฝ่ายต่างร่วมกันเตรียมการส่งมอบทรัพย์สินอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น จึงทำให้เบาใจได้ในระดับหนึ่งว่า การส่งมอบพื้นที่ครั้งนี้จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตาม กนอ.จะรวบรวมข้อคิดเห็น และข้อสรุปจากการหารือ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบต่อไป" ผู้ว่าการ กนอ. กล่าว